นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลและสถานประกอบการต้องช่วยกันแบ่งเบาอุปสรรคและประสานในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ร่วมกัน

(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนามประจำปีภายใต้หัวข้อ "การฟื้นฟูและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในสภาวการณ์ของยุคชีวิตวิถีใหม่" ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงการวางแผนและการลงทุน ธนาคารโลก องค์กรการเงินระหว่างประเทศและพันธมิตรฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม
นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลและสถานประกอบการต้องช่วยกันแบ่งเบาอุปสรรคและประสานในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ร่วมกัน - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมระดับสูงของฟอรั่มสถานประกอบการ

นี่เป็นโอกาสเพื่อให้ชุมชนสถานประกอบการแสดงความคิดเห็น มีข้อเสนอแนะและมาตรการเพื่อปฏิบัติมติที่ 11 ของรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้ง ระบุความรับผิดชอบของสำนักงานบริหารภาครัฐและชุมชนสถานประกอบการในการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน และการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของเวียดนาม

ในการประชุม นาย เหงียนชี้หยุง รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เผยว่า ในปี 2021 เวียดนามได้บรรลุผลงานที่สำคัญๆ เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพและสามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้ มูลค่าการนำเข้าและส่งออกทำสถิติใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.6 คิดเป็นเกือบ 6 แสน 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  นำเวียดนามกลายเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศที่มีขอบเขตการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก การดึงดูดเงินเอฟดีไอในปี 2021 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 ขณะนี้ เวียดนามได้กลายเป็น 1 ใน 6 ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากเป็นอันดับต้นๆของโลก และตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2021 ได้มีการใช้แนวทางการปรับตัวอย่างปลอดภัย คล่องตัว ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การฟื้นตัวและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า ปี 2022 เป็นปีที่มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อเวียดนามเพื่อปฏิบัติเป้าหมายและการกำหนดแนวทางเชิงยุทธศาสตร์จนถึงปี 2030 เวียดนามกำลังมีโอกาสพัฒนาที่เข้มแข็งโดยอาศัยพลังที่เข้มแข็ง สถานะ ความสามารถและชื่อเสียงของประเทศภายหลัง 35 ปีของการเปลี่ยนแปลงใหม่ นี่ยังเป็นช่วงเวลาทดสอบความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาลและสถานประกอบการเพื่อร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคบนเจตนารมณ์แห่งการ “ร่วมกันแบ่งเบาอุปสรรค” “สร้างความกลมกลืนระหว่างผลประโยชน์ต่างๆและแบ่งเบาความเสี่ยง”

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง แสดงความเห็นว่า ก่อนอื่นปฏิบัติโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม ควบคู่กับโครงการแบบบูรณาการเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผลักดันยุทธศาสตร์ฉีดวัคซีน เดินหน้าค้ำประกันเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล สังคมดิจิทัล เศรษฐกิจแห่งสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน และปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ควบคู่กันนั้น เวียดนามเน้นมาตรการต่างๆเพื่อฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทาน ค้ำประกันการแลกเปลี่ยนการค้า เสถียรภาพของแหล่งเชื้อเพลิง กิจกรรมการผลิต การประกอบธุรกิจที่ปลอดภัยและเป็นไปอย่างราบรื่นของสถานประกอบการในยุคชีวิตวิถีใหม่ โดยเน้นมาตรการที่ค้ำประกันความปลอดภัยสำหรับการแพร่ระบาด ปฏิรูประเบียบราชการให้กระทัดรัด แก้ไขอุปสรรคเกี่ยวกับกลไก นโยบายด้านภาษี สินเชื่อ ทรัพยากรมนุษย์และโครงสร้างพื้นฐาน หัวข้อของการบริหารในปี 2022 คือ “สามัคคี มีระเบียบวินัย เป็นฝ่ายรุกในการปรับตัวอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพและฟื้นฟูเพื่อการพัฒนา” รัฐบาลเวียดนามจะอาศัยสถานการณ์ที่เป็นจริงเพื่อชี้นำ บริหารอย่างคล่องตัว เคร่งครัด มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์และมีระเบียบวินัย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด