นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น

(VOVworld) – เมื่อค่ำวันที่ 12 พฤศจิกายนที่กรุงเนปิดอ ประเทศพม่าได้มีการจัดการประชุมผู้นำแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นครั้งที่ 6 โดยมีผู้นำจากเวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า ไทยและญี่ปุ่นเข้าร่วม ที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์ร่วมโดยเห็นพ้องผลักดันการเชื่อมโยงภูมิภาคแม่น้ำโขงเพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนในปี 2015 โดยเน้นถึงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจและเส้นทางใหม่ที่เชื่อมโยงอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงกับอนุทวีปอินเดีย จัดทำ “วิสัยทัศน์พัฒนาอุตสาหกรรมแม่น้ำโขง”เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กิจกรรมประกอบธุรกิจระหว่างอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงและญี่ปุ่น
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้รัฐบาลญี่ปุ่นให้การช่วยเหลือการวิจัยความเป็นไปได้ในการสร้างเส้นทางการเชื่อมโยงแนวเศรษฐกิจทางใต้และแนวเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตกกับอนุทวีปอินเดียและเอเชียใต้ การวิจัยโครงการบริหารและพัฒนาแหล่งน้ำของแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน รวมทั้งการประเมินผลกระทบของการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขง พร้อมทั้งแสดงความเห็นว่า ต้องเน้นผลักดันความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการและท้องถิ่นต่างๆของญี่ปุ่นกับสถานประกอบการและท้องถิ่นของประเทศในภูมิภาคแม่น้ำโขงในด้านที่มีศักยภาพ เช่นการเกษตร สัตว์น้ำและโลจิสติก

บรรดาผู้นำของอาเซียนและหุ้นส่วนต่างๆ

ก่อนหน้านั้น ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง ได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆคืออินเดีย ญี่ปุ่น สหประชาชาติและการประชุมผู้นำฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนอาเซียน-ออสเตรเลีย ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหลายปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ รวมทั้งปัญหาในทะเลตะวันออก บรรดาผู้นำของประเทศต่างๆได้ย้ำถึงการธำรงสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค การรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยและการเดินเรืออย่างเสรี การบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติ การปฏิบัติตามกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี 1982 แถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและการจัดทำระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว ท่าน เหงียนเติ๊นหยุงได้ชื่นชมการสนับสนุนที่เข้มแข็งของหุ้นส่วนต่างๆต่อจุดยืนและหลักการร่วมของอาเซียน ในสภาวะการณ์ที่สถานการณ์ในทะเลตะวันออกผันผวนอย่างซับซ้อนต่อไป ท่าน เหงียเติ๊นหยุงได้เสนอว่า ต้องเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด แก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติ ไม่ขยายหรือเพิ่มความตึงเครียด ไม่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ปฏิบัติตามดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพโดยก่อนอื่นคือมาตรา 5 เกี่ยวกับการใช้ความอดกลั้นและบรรลุซีโอซีที่มีผลบังคับให้ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติในทะเลตะวันออกโดยเร็ว

ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้พบปะกับนาย ดมี ตรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย

ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 25 บ่ายวันที่ 12 พฤศจิกายน ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง ได้พบปะกับนาย ดมี ตรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซียและนาย โทนี แอบบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียโดยในการพบปะกันนาย ดมีตรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องให้เพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในเวลาที่จะถึง เห็นพ้องกันว่า จะสั่งให้กระทรวงและหน่วยงานเพิ่มความสมบูรณ์ของข้อตกลงฉบับต่างๆที่จะได้รับการลงนามในกรอบการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของท่าน เหงียนฟู๊จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคเพื่อให้การเยือนประสบความสำเร็จอย่างงดงามและบรรลุผลงานที่จริงจัง สำหรับปัญหาในทะเลตะวันออก นาย ดมีตรี เมดเวเดฟได้เห็นพ้องกับทัศนะของเวียดนามและอาเซียนเกี่ยวกับการแก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานการให้ความเคารพกฎหมายสากลและมีความปรารถนาว่า สถานการณ์ในทะเลตะวันออกจะมีความสงบและยั่งยืน
ส่วนในการพบปะกับนาย โทนี แอบบอตร์ ท่าน เหงียนเติ๊นหยุงได้เสนอให้ออสเตรเลียอำนวยความสะดวกให้แก่การส่งออกสินค้าของเวียดนาม เพิ่มทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนเวียดนามที่ศึกษาในออสเตรเลีย ชื่นชมการที่ออสเตรเลียธำรงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการหรือโอดีเอให้แก่เวียดนามและมีความปรารถนาว่า ออสเตรเลียจะให้การช่วยเหลือเวียดนามพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างยั่งยืนและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อไป./.