นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมรัฐบาลประจำเดือนสิงหาคม (VGP)

ในการกล่าวปราศรัยสรุปการประชุม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้รับทราบถึงการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจของทางการท้องถิ่นเพื่อค้ำประกันผลประโยชน์ของประชาชนและสถานประกอบการ สำหรับหน้าที่ตั้งแต่บัดนี้ถึงปลายปี 2018 นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เร่งปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียง รักษาระเบียบวินัยและเชิดชูบทบาทความรับผิดชอบของหัวหน้ากระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆและย้ำว่า ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ และรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ส่วนธนาคารแห่งชาติต้องบริหารนโยบายการเงินอย่างรอบคอบ คล่องตัว ผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างองค์การสินเชื่อควบคู่กับการแก้ไขปัญหาหนี้เสียและองค์การสินเชื่อที่ขาดประสิทธิภาพ ผลักดันการเบิกจ่ายเงินลงทุนสาธารณะ ส่งเสริมการลงทุนด้านการเกษตร ยกระดับคุณภาพและการรักษาความปลอดภัยด้านอาหารโดยเฉพาะต้องมีมาตรการป้องกันและรับมือปัญหาน้ำหลากน้ำท่วม อัคคีภัย รักษาความมั่นคง ความปลอดภัยในการจราจรในโอกาสฉลองวันชาติ 2 กันยายน

ส่วนในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำเดือนสิงหาคมของรัฐบาลเมื่อค่ำวันที่ 30 สิงหาคม นาย มายเตี๊ยนหยุงรัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาลได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมใน 8 เดือนที่ผ่านมา โดยเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ภาวะเงินเฟ้อและดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI ได้รับการควบคุม ซึ่งดัชนี CPI ในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.45 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม และดัชนี CPI เฉลี่ยใน 8 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อุตสาหกรรมต่างๆยังคงพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจเวียดนามมากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนเป็นอย่างมาก

สำหรับการที่โครงการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินใกล้สระหว่านเกี๊ยมจะส่งผลกระทบในทางลบต่อเขตโบราณสถานทางประวัติศาสตร์สระหว่านเกี๊ยมและเขตใจกลางกรุงฮานอย นาย เหงวียนหงอกดง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมขนส่งได้ยืนยันว่า“กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวต้องแสดงความคิดเห็นต่อการบริหารเขตโบราณสถาน ซึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางการกรุงฮานอยต้องประเมินผลกระทบของโครงการฯต่อสิ่งแวดล้อม การบริหารและอนุรักษ์เขตโบราณสถาน อีกทั้งต้องจัดทำรายงานเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติโครงการตามกำหนดเวลาควบคู่กับการอนุรักษ์เขตโบราณสถานตามกฎหมาย”