นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุก

ในการตอบคำถามของนักข่าวว่า เวียดนามจะแสดงความคิดเห็นอะไรในการประชุมสุดยอดจี 20 ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้เผยว่า จากการเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึก เวียดนามจะแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ความคิดริเริ่มเกี่ยวกับความร่วมมือและความพยายามของเวียดนามในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลก ร่วมกับประชาคมโลกสร้างสรรค์โลกที่สันติภาพ เจริญรุ่งเรืองและไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นในเวลาที่ผ่านมาและแนวทางความร่วมมือในเวลาที่จะถึง นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ยืนยันว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งและจริงจังในทุกด้าน ตอบสนองความต้องการและผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรือง ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก

ส่วนในด้านการเมือง ทั้งสองประเทศได้ธำรงการเยือนและการพบปะสังสรรค์ทุกระดับ มีส่วนร่วมส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศ สำหรับด้านเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนามในด้านการลงทุน การค้า การท่องเที่ยว เป็นประเทศที่สงวนเงินโอดีเอให้แก่เวียดนามมากที่สุด นอกจากความร่วมมือทวิภาคี ทั้งสองประเทศได้ส่งเสริมความร่วมมือในฟอรั่มพหุภาคีในระดับภูมิภาคและโลก

สำหรับการประเมินของเวียดนามเกี่ยวกับสถานการณ์ทะเลตะวันออกในปัจจุบันและมาตรการที่เวียดนามปฏิบัติเพื่อธำรงสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า เวียดนามจะร่วมกับประชาคมโลก รวมทั้ง ญี่ปุ่นส่งเสริมความร่วมมือทางทะเลผ่านหลายรูปแบบ สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะ อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 เพื่อค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน การกู้ภัย การต่อต้านอาชญากรรมในทะเล เป็นต้น เวียดนามชื่นชมบทบาทและส่วนร่วมของญี่ปุ่นในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและเสรีภาพในการเดินเรือทางทะเลและการบินในทะเลตะวันออกในเวลาที่ผ่านมา อีกทั้ง เชื่อมั่นว่า ญี่ปุ่นจะส่งเสริมบทบาทดังกล่าวเพื่อมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและโลก

สำหรับการที่ญี่ปุ่นอนุมัตินโยบายเปิดรับแรงงานต่างประเทศเพื่อรับมือกับสถานการณ์อัตราการเกิดที่ลดลง เวียดนามมีความหวังว่า จะได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้านนี้เนื่องจากมีชาวเวียดนามอาศัยในประเทศญี่ปุ่นมากถึง 3 แสนคนมากเป็นอันดับ 3 ของชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่น รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญต่อการผลักดันความร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้านแรงงานเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ เวียดนามมีความประสงค์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะสนับสนุนแรงงานเวียดนามในการปรับตัวเข้ากับสังคมของญี่ปุ่น.