นายกรัฐมนตรีเวียดนามเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่73

(VOVWORLD) -เช้าวันที่29กันยายน นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามพร้อมคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามได้เดินทางกลับถึงกรุงฮานอย เสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่73 ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ

นายกรัฐมนตรีเวียดนามเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่73 - ảnh 1 นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เข้าร่วม15กิจกรรม มีบทปราศรัยในการประชุมหารือของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่73 พบปะกับประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ผู้นำคิวบา โครเอเชีย บัลแกเรีย ฟิจิและเซนต์ลูเซีย เข้าร่วมการสนทนากับตัวแทนเครือบริษัทใหญ่ของสหรัฐ พบปะกับเพื่อนมิตรสหรัฐ คณะผู้แทนถาวรของเวียดนามประจำสหประชาชาติและตัวแทนชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในนครนิวยอร์ก

ในการกล่าวปราศรัยต่อหน้าผู้นำ193ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมหารือภายใต้หัวข้อ“เพื่อให้สหประชาชาติมีความผูกพันกับทุกคนมากขึ้น:การนำโลกและแบ่งเบาความรับผิดชอบเพื่อสังคมที่มีสันติภาพ ความยุติธรรมและความยั่งยืน” นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำว่า  เวียดนามให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติกฎบัตรของสหประชาชาติ หลักการขั้นพื้นฐานของกฎหมายสากลในการแก้ไขปัญหาการพิพาทระหว่างประเทศอย่างสันติ รวมทั้ง ปัญหาทะเลตะวันออก พร้อมทั้ง แสดงความประสงค์ว่า ประเทศมหาอำนาจและประเทศพัฒนาจะเป็นตัวอย่างในการรักษาสันติภาพและการพัฒนาผ่านปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม สมัชชาใหญ่สหประชาชาติควรเป็นศูนย์กลางเพื่อให้ประเทศต่างๆร่วมมือเพื่อสันติภาพ ความยุติธรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้กล่าวขอบคุณ53ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เห็นพ้องอนุมัติให้เสนอชื่อเวียดนามเป็นผู้ลงสมัครเดียวของกลุ่มในการชิงตำแหน่งประเทศสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี2020-2021และกล่าวขอบคุณการสนับสนุนของประเทศต่างๆให้แก่เวียดนาม

ในการพบปะกับคณะผู้แทนถาวรของเวียดนามประจำสหประชาชาติ ชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในนครนิวยอร์กและเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เสนอให้เจ้าหน้าที่คณะผู้แทนถาวรของเวียดนามประจำสหประชาชาติส่งเสริมจิตใจการเป็นฝ่ายรุก มีความคิดสร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงใหม่และมีส่วนร่วมต่องานด้านการทูตในฟอรั่มพหุภาคีที่สำคัญนี้มากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด