นายกรัฐมนตรีเวียดนามให้การต้อนรับผู้แทนกองทัพประเทศต่างๆ

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ชี้ชัดถึงนโยบายด้านกลาโหมของเวียดนามตามแนวทางรักษาสันติภาพและปกป้องตนเอง ซึ่งถูกระบุในหนังสือปกขาวด้านกลาโหมของเวียดนามปี 2019ที่เพิ่งได้รับการประกาศ เวียดนามมีแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายในการแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ ความขัดแย้งและการพิพาทอย่างสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล พร้อมทั้ง เผยว่า ในตลอด 75 ปีที่ผ่านมา กองทัพประชาชนเวียดนามได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง  ในการปฏิบัตินโยบายด้านกลาโหมที่เป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง เวียดนามเน้นพัฒนาและผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหมกับประเทศต่างๆบนพื้นฐานของการให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนเพื่อเป้าหมายสูงสุดคือสันติภาพ เอกราชและการพัฒนา อีกทั้ง เสนอให้ประเทศต่างๆให้การสนับสนุนเวียดนามในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในปี 2020

ในนามคณะผู้แทนของกองทัพประเทศต่างๆ นายพล Min Aung Haing ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธเมียนมาร์ได้แสดงความรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของกองทัพประชาชนเวียดนาม เศรษฐกิจเวียดนามนับวันยิ่งพัฒนา โดยอัตราจีดีพีเฉลี่ยอยู่ที่เกือบร้อยละ 7ต่อปี โดยเฉพาะ ในสภาวการณ์ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกแต่เวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนรองเสนาธิการใหญ่กองทัพรัสเซีย L.V.Nicolaevich ได้ยืนยันว่า กองทัพประชาชนเวียดนามเป็นหนึ่งในกองทัพที่มีอาวุธ ยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยและมีกำลังพลมากที่สุดในภูมิภาค.