ภาพการประชุม

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้กล่าวว่า ในการลงคะแนนไว้วางใจต่อสมาชิกรัฐบาลในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งนี้ จำนวนสมาชิกรัฐบาลที่ได้รับคะแนนไว้วางใจระดับสูงและได้รับคะแนนไว้วางใจมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งผลการลงคะแนนไว้วางใจดังกล่าวได้สร้างแรงกระตุ้นให้สมาชิกรัฐบาลพยายามปฏิบัติหน้าที่และยกระดับความรับผิดชอบต่อประชาชนและสภาแห่งชาติ

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจสังคมในเดือนตุลาคมและใน 10 เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ประเมินว่า ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามยังคงมีเสถียรภาพ  ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI ใน 10 เดือนที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ ร้อยละ 3.6 ภาวะ เงินเฟ้อเพิ่มอีกร้อยละ 1.43 อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีเสถียรภาพ ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวได้รับการชื่นชมจากสภาแห่งชาติและประชาชน และเป็นพื้นฐานให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนามในปีนี้และปีต่อๆไป ส่วนมูลค่าการส่งออกได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยใน 10 เดือนทีผ่านมาได้บรรลุ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับมูลค่าการส่งออกในปี 2017 ได้เปรียบดุลการค้า 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรอยู่ในระดับสูง

นายกรัฐมนตรียังเผยว่า การผลิตและประกอบธุรกิจของสถานประกอบการยังประสบความลำบาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อการสร้างแรงกระตุ้นให้แก่การขยายตัวของเวียดนามและท้องถิ่นต่างๆ ดังนั้น ท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะกรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ นครเกิ่นเทอ เมืองท่าไฮฟองและนครดานัง ซึ่งเป็นนครใหญ่และเป็นหัวเรือด้านเศรษฐกิจของประเทศต้องผลักดันการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้แก่การพัฒนาในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ.