นายกรัฐมนตรีให้การต้อนรับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชากับผู้อำนวยการใหญ่บริษัท Marubeni ญี่ปุ่น
(VOVWORLD) -บ่ายวันที่13 พฤศจิกายนที่กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งห์ได้ให้การต้อนรับพลเอก Tea Seiha รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาและนาย Kakinoki Masumi ผู้อำนวยการใหญ่-ซีอีโอของบริษัท Marubeni แห่งญี่ปุ่น ที่กำลังเยือนและทำงานในเวียดนาม
ในการให้การต้อนรับพลเอก Tea Seiha รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งห์ได้กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลเวียดนามสนับสนุนและหวังว่ากองทัพสองประเทศจะขยายการแลกเปลี่ยนประเด็นยุทธศาสตร์ต่างๆที่ส่งผลต่องานด้านกลาโหมและความมั่นคงของแต่ละประเทศ นายกรัฐมนตรีหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะประสานงานกับเวียดนามเพื่อดำเนินการตามข้อตกลงระดับสูงอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ส่งเสริมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนโดยเฉพาะคณะผู้แทนระดับสูง กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ การสร้างชายแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา ตลอดจนสนับสนุน และสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยแก่ชุมชนเวียดนามและสถานประกอบการเวียดนามในกัมพูชา
ส่วนรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชาและตัวเขาเองจะสานต่อความสัมพันธ์ที่ดีงามและเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านอันดีและมิตรภาพความร่วมมือที่ครอบคลุมและยั่งยืนกับเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำเป็นต้องให้ความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างเวียดนามและกัมพูชาแก่คนรุ่นใหม่เพื่อส่งเสริมความรับผิดชอบมากขึ้นในการรักษาและธำรงพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
ในการให้การต้อนรับนาย Kakinoki Masumi ผู้อำนวยการใหญ่-ซีอีโอของบริษัท Marubeni แห่งญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้กล่าวว่า แม้จะต้องรับมือความท้าทายมากมาย แต่เศรษฐกิจของเวียดนามยังคงฟื้นตัวเป็นบวก เศรษฐกิจมหภาคยังคงมีเสถียรภาพ อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบการควบคุม และความสมดุลที่สำคัญของเศรษฐกิจได้รับการค้ำประกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อให้บริษัทของญี่ปุ่นขยายความร่วมมือและการลงทุนประกอบธุรกิจในเวียดนามในด้านที่เวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนา
ในส่วนของนาย Kakinoki Masumi ผู้อำนวยการใหญ่-ซีอีโอของบริษัท Marubeni ก็กล่าวว่าทางบริษัทได้ลงทุนทำธุรกิจในเวียดนามมาตั้งแต่ปี 1991จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้ลงทุนไปประมาณ 90 พันล้านเยน หรือมากกว่า 593 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเวียดนาม สร้างงานให้กับแรงงาน 7,500 คน โดยบริษัทมองว่าเวียดนามเป็นตลาดที่สำคัญในเอเชีย และในเวลาอันใกล้นี้ จะยังคงลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการต่างๆ ในเวียดนามเช่น โครงการด้านพลังงาน การแปรรูป และการส่งออกสินค้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น.