นายกฯเหงวียนซวนฟุกได้ชื่นชมการที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงโครงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล สร้างกรอบความร่วมมือใหม่ที่สอดคล้องกับสภาวการณ์ใหม่ โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านการพัฒนาและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบันนักลงทุนลักเซมเบิร์กเป็นนักลงทุนยุโรปรายใหญ่อันดับ5ในเวียดนามและนายกฯได้แสดงความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะอำนวยเงื่อนไขที่สะดวกต่างๆเพื่อให้นักธุรกิจสองประเทศหารือแลกเปลี่ยนสร้างความเป็นหุ้นส่วนในด้านการเงิน-ธนาคาร การท่องเที่ยว การขยายตัวแห่งสีเขียว นอกจากนั้นทั้งสองฝ่ายควรผลักดันการจัดการปัญหาสุดท้ายของข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนหรือไอพีเอ ส่งเสริมการทำระเบียบการต่างๆเพื่อมุ่งสู่การลงนามข้อตกลงการค้าเสรี-เอฟทีเอ

ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกิจการยุโรปราชรัฐลักเซมเบิร์กได้ชื่นชมบทปราศรัยของนายกฯเวียดนามในการประชุมจี7ขยายวงศ์ที่เน้นหัวข้ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แสดงความหวังว่าอียูและเวียดนามจะลงนามข้อตกลงการค้าเสรีอีวีเอฟทีเอโดยเร็วเพื่อเอื้อให้แก่การผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับประเทศสมาชิกยุโรปต่างๆในเวลาข้างหน้า.