นายกฯให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข่าวที่เวียดนามอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและอาเซียน+3

(VOVworld)- จากเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ ดุลชำระ ปริมาณเงินสำรองและความเชื่อมั่นที่เข้มแข็งของนักลงทุนในปัจจุบัน รัฐบาลเวียดนามขอยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟและอาเซียน+3เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

นายกฯให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข่าวที่เวียดนามอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและอาเซียน+3 - ảnh 1
(VOVworld)-นอกรอบการประชุมเอเปกครั้งที่ 20 ณ เมืองวลาดีวอสต๊อค ประเทศรัสเซียประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้กล่าวว่า อินโดนีเซียและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆพร้อมที่จะช่วยเหลือเวียดนามฝ่าฟันวิกฤตเพื่อจะได้ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ ซึ่งนักข่าวของสำนักข่าวเวียดนามได้สัมภาษณ์ท่านเหงวียนเตินหยุงนายกฯเกี่ยวกับปัญหานี้ โดยนายกฯได้ยืนยันว่า ตามความตกลงของกองทุนสำรองพหุภาคีภายใต้ข้อคิดริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative Multilateralization)หรือ CMIM ที่เวียดนามเป็นสมาชิก ทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนมีสิทธิใช้เงินจากกองทุนสำรองนี้เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเสริมสภาพคล่องเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจและตลาดการเงินภายในประเทศ  ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี2012มาจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามยังคงเป็นไปในทางที่ดี เงินเฟ้อในช่วง8เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ2.86 และคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ6  ยอดเงินในบัญชีเดินสะพัดมีกว่า6พันล้านเหรียญสหรัฐ ยอดการชำระรายวันอยู่ที่ประมาณ8พันล้านเหรียญสหรัฐ เงินสำรองต่างประเทศเพิ่มขึ้น2เท่าเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี ตลาดการเงินามีเสถียรภาพ การส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ20 อัตราการเสียเปรียบดุลการค้าอยู่ที่เกือบร้อยละ1 จีดีพีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ5.5 การปฏิรูปเศรษฐกิจรวมทั้งภาคธนาคารของเวียดนามก็เริ่มเห็นผลสำเร็จในเบื้องต้นและผลสำเร็จต่างๆดังกล่าวรวมทั้งการกำหนดแนวทางนโยบายมหภาคของรัฐบาลก็ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและได้รับคำชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ   จากเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ ดุลชำระ ปริมาณเงินสำรองและความเชื่อมั่นที่เข้มแข็งของนักลงทุนในปัจจุบัน รัฐบาลเวียดนามขอยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟและอาเซียน+3เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและรัฐบาลเวียดนามจะธำรงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในกรอบความร่วมมือกับไอเอ็มเอฟและอาเซียน+3ต่อไป./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด