นำความสัมพันธ์เวียดนาม-ยูกันดาก้าวเข้าสู่ระยะการพัฒนาที่สมกับศักยภาพของสองประเทศ

(VOVWORLD) -บ่ายวันที่ 24 พฤศจิกายน  ท่านเหงวียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดียูกันดา หัวหน้าพรรคขบวนการต่อสู้แห่งชาติที่กำลังเยือนเวียดนาม 
นำความสัมพันธ์เวียดนาม-ยูกันดาก้าวเข้าสู่ระยะการพัฒนาที่สมกับศักยภาพของสองประเทศ - ảnh 1เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกับประธานาธิบดียูกันดา

ท่านเหงวียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามย้ำว่าการเยือนครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งโดยเป็นการเปิดระยะใหม่แห่งการพัฒนาระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสองประเทศกำลังเตรียมฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี2023  ชื่นชมผลการหารือระหว่างประธานาธิบดียูกันดาและประธานประเทศเหงียนซวนฟุก และการลงนามเอกสารความร่วมมือทวิภาคีที่ลงนามในโอกาสนี้พร้อมทั้งยืนยันถึงศักยภาพของความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในทุกด้าน 

ส่วนประธานาธิบดีโยเวรี มูเซเวนีได้ชื่นชมพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในการเป็นผู้นำประชาชนดำเนินภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาเวียดนามให้เจริญรุ่งเรือง พร้อมแสดงความประสงค์จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป.
ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะพยายามส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีให้พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม นำความสัมพันธ์นี้ไปสู่ระดับใหม่ที่สมกับความปรารถนาและศักยภาพของทั้งสองประเทศ.
นำความสัมพันธ์เวียดนาม-ยูกันดาก้าวเข้าสู่ระยะการพัฒนาที่สมกับศักยภาพของสองประเทศ - ảnh 2นายกรัฐมนตรีเวียดนามต้อนรับประธานาธิบดียูกันดา

บ่ายวันเดียวกัน ในการให้การต้อนรับประธานาธิบดียูกันดา นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝามมิงชิ้งห์ได้ย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายควรให้ความสนใจผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคี อำนวยความสะดวกด้านการส่งออกสินค้าที่เป็นจุดแข็งของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะส่งเสริมการเชื่อมโยงเพื่อให้สินค้าของกันเจาะตลาดแอฟริกาตะวันออกและอาเซียน นายกรัฐมนตรีเวียดนามก็ย้ำถึงการถือภาคการเกษตรเป็นเสาหลักของความร่วมมือในอนาคตเพื่อร่วมรักษาความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืน

ส่วนประธานาธิบดียูกันดาได้แสดงความประทับใจต่อผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามและชื่นชทบทบาทของเวียดนามในเวทีพหุภาคีต่างๆ ซึ่งยูกันดาให้ความสำคัญต่อมิตรภาพความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างสองประเทศและเห็นพ้องในมาตรการผลักดันความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสนอ

ผู้นำสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะผลักดัรเพื่อสร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่กิจกรรมการลงทุนผ่านการเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้าเสรี การเลี่ยงเก็บภาษีซ้ำซ้อนและการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างกัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด