นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามต่อการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพกับจีน
(VOVworld)-กระชับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับจีนให้พัฒนายิ่งขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพของภูมิภาคและโลก
|
นายเหงียนวันเธอ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีน (Photo qdnd.vn)
|
(VOVworld) - ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมการทูตครั้งที่ 28 ณ กรุงฮานอย นายเหงียนวันเธอ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีนได้ยืนยันว่า “นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพและส่งเสริมความร่วมมือในทุกด้านกับประเทศจีน”
นับตั้งแต่ต้นปี 2013 มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะหลังการเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่างท่านเหงียนฟู้จ๋อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกับท่านสีจิ้นผิง ประธานประเทศจีนและการเยี่ยมเยือนกันระหว่างผู้นำสองประเทศ ความสัมพันธ์เวียดนาม – จีนได้ประสบก้าวพัฒนาใหม่ โดยมีความเห็นพ้องกันในปัญหาต่างๆ เช่น การจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานร่วมสามกลุ่มทางทะเล ทางบกและการเงิน พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จะส่งเสริมให้ 3 กลุ่มดังกล่าวปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายเหงียนวันเธอเผยว่า “นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือในทุกด้านกับจีน นี่คือผลประโยชน์ของประชาชนเวียดนาม กระชับความสัมพันธ์ดังกล่าวให้พัฒนายิ่งขึ้นก็เพื่อมีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพของภูมิภาคและโลก ความก้าวหน้าในความสัมพันธ์กับจีนคือความปรารถนาของผู้นำและประชาชนเวียดนาม” สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก เอกอัครราชทูตเหงียนวันเธอกล่าวว่า ต้องค่อยๆแก้ไขปัญหานี้บนพื้นฐานของการเจรจาอย่างสันติตามกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี 1982
เกี่ยวกับการร่วมกันลาดตระเวณในทะเลของกองกำลังทหารทั้งสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา นายเหงียนวันเธอยืนยันว่า การร่วมกันลาดตระเวณอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพและความเข้าใจกันระหว่างกองกำลังทหารทั้งสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น สำหรับการแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างเวียดนามกับจีน นายเหงียนวันเธอเผยว่า เป้าหมายของผู้นำทั้งสองประเทศคือ จนถึงปี 2015 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะบรรลุ 6หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้แต่ปัจจุบันนี้ ความเสียเปรียบดุลการค้าของเวียดนามยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำคัญของเวียดนาม โดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิกหรือทีพีพีจะได้รับการลงนามในเร็วๆนี้./.