ปี ๒๐๑๔ เวียดนามจะส่งเสริมพลังภายในเพื่อพัฒนาประเทศ

( VOVworld )- วันที่ ๑ มกราคมเวียดนามย่างเข้าปีใหม่ ๒๐๑๔ ด้วยเศรษฐกิจและสังคมที่มีเสถียรภาพ ซึ่งสะท้อนจากผลสำเร็จในด้านการเมือง ความสัมพันธ์ทางการทูต เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมของปี ๒๐๑๓ ที่ผ่านมา  ทั้งนี้แสดงให้เห็นความตั้งใจอันแน่วแน่ของเวียดนามในการผสมผสานเข้ากับโลกอย่างกว้างลึก

( VOVworld )- วันที่ ๑ มกราคม เวียดนามย่างเข้าปีใหม่ ๒๐๑๔ ด้วยเศรษฐกิจและสังคมที่มีเสถียรภาพ ซึ่งสะท้อนจากผลสำเร็จในด้านการเมือง ความสัมพันธ์ทางการทูต เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมของปี ๒๐๑๓ ที่ผ่านมา  ทั้งนี้แสดงให้เห็นความตั้งใจอันแน่วแน่ของเวียดนามในการผสมผสานเข้ากับโลกอย่างกว้างลึก

ปี ๒๐๑๔ เวียดนามจะส่งเสริมพลังภายในเพื่อพัฒนาประเทศ - ảnh 1
ฮานอยทุกวันนี้
ในโอกาสปีใหม่ ๒๐๑๔ เราชาวเวียดนามขอทบทวนผลงานที่โดดเด่นในปี ๒๐๑๓ ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงปลายปี ๒๐๑๓ ที่มีข่าวดีหลายๆข่าวนั่นคือ รัฐสภาได้ผ่านความเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๐๑๓และแก้ไขกฎหมายสำคัญๆบางฉบับ ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเจรจากับหุ้นส่วนและเศรษฐกิจชั้นนำของโลกเกี่ยวกับข้อตกลงหุ้นส่วนร่วมมือทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีเพื่อเข้าเป็นสมาชิกของข้อตกลงนี้  ทั้งนี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อให้เวียดนามสร้างสรรค์ระเบียบให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นและบรรยากาศการพัฒนาประเทศเพื่อผสมผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างมีประสิทธิภาพ

ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญๆคือสัญญาณที่ดี

ดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเวียดนามปี ๒๐๑๓ จะเป็นพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศในปี ๒๐๑๔ มากขึ้นต่อไป โดยสามารถรักษาเศรษฐกิจมหภาคอย่างมีเสถียรภาพ แม้ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ ๕.๔๒ เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ๐.๓ แต่ก็ถือว่าเป็นดัชนีที่เหมาะสมและแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาประมาณ ๒ หมื่น ๑ พัน ๖๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกมีมูลค่า ๑ แสน ๓ หมื่น ๒ พัน ๓๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ สิ่งที่น่าสนใจคือ การนำเข้าลดลง อัตราการเสียเปรียบดุลการค้าลดลง  โดยภาพรวมแล้ว เศรษฐกิจเวียดนามในปี ๒๐๑๓ ดีขึ้น  ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ปี ๒๐๑๔ เศรษฐกิจเวียดนามสามารถขยายตัวอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ  นายเลดังแยวง ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงของเวียดนามเห็นว่า  “ ปี ๒๐๑๓ เศรษฐกิจเวียดนามได้เติบโตมากขึ้น เงินเฟ้อลดลง อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีเสถียรภาพ ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ายินดี  ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศในสองปีข้างหน้าต้องขึ้นอยู่กับการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงใหม่ หากมีการเปลี่ยนแปลงใหม่เศรษฐกิจนั้นอัตราการขยายตัวก็จะเพิ่มมากขึ้น  ผมหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเพราะรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการที่ถูกทิศทางแล้ว

เวียดนามยืนหยัดเป้าหมายเพื่อการพัฒนา

การประชุมระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนเพื่อพัฒนาที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเป็นเครื่องหมายที่สำคัญเพื่อบ่งบอกถึงกระบวนการพัฒนาของเวียดนามโดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเวียดนามกับบรรดาประเทศที่ให้เงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือโอดีเอเปลี่ยนไปสู่ระยะใหม่คือ จากเป็นประเทศที่รับเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเวียดนามได้กลายเป็นหุ้นส่วนของประเทศที่ให้การอุปถัมภ์  ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯเวียดนามได้กล่าวต่อที่ประชุมถึงเป้าหมายและแนวทางสำคัญๆของเวียดนามในปี ๒๐๑๔ นั่นคือ การรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมเงินเฟ้อ ขยายการส่งออก ควบคุมการนำเข้าและยืนหยัดปรับโครงสร้างเศรษฐกิจต่อไป  สำหรับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจนั้นต้องเน้นการปรับโครงสร้างการลงทุนรวมทั้งการลงทุนสาธารณะและปรับโครงสร้างระบบธนาคาร  ในปี ๒๐๑๔ รัฐบาลยังให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อด้านสวัสดิการสังคมและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯย้ำว่า  “ ปี ๒๐๑๔ ต้องให้ความสำคัญต่อสวัสดิการสังคมให้ดีขึ้น รัฐบาลเวียดนามจะเน้นการสร้างงาน ลดความยากจนอย่างยั่งยืนด้วยนโยบายที่มีประสิทธิภาพและจำเป็นโดยเฉพาะชนกลุ่มน้อย

ปี ๒๐๑๔ เวียดนามจะส่งเสริมพลังภายในเพื่อพัฒนาประเทศ - ảnh 2
เงินเฟ้อได้รับการควบคุมอยู่ที่่หลักหน่วย 

ความมีเสถียรภาพเพื่อใช้พลังภายในในการพัฒนา

วันที่ ๑ พฤศจิกายนปี ๒๐๑๓ เวียดนามมีประชากรครบ ๙๐ ล้านคนและมีประชากรที่อยู่ในเกณฑ์ทำงานมากเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นความได้เปรียบในด้านกำลังแรงงาน  นี่เป็นเงื่อนไขที่สะดวก เป็นพลังภายในและโอกาสเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืนและผลักดันกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย  ดังนั้น การพัฒนาแหล่งบุคลากรถือเป็นมาตรการยุทธศาสตร์ที่ก้าวกระโดดหนึ่งใน ๓ มาตรการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามกับนานาประเทศในภูมิภาคและโลก ซึ่งบุคลากรที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีวุฒิการศึกษาที่สามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรวดเร็วจะทำให้ประเทศพัฒนาอย่างมั่นคงในปี ๒๐๑๔ และปีต่อๆไป  ดร.ฟร้อง เจสเซน หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปหรืออียูประจำเวียดนามเห็นว่า “ เวียดนามมีศักยภาพมากมายและพวกคุณรู้จักใช้ประโยชน์จากศักยภาพนี้อย่างเต็มที่ เวียดนามประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาที่สะท้อนจากโครงการประเมินนักเรียนระหว่างประเทศหรือพีไอเอสเอ ๒๐๑๒ ที่นักเรียนเวียดนามได้จัดอยู่ในอันดับสูงกว่านักเรียนหลายประเทศที่ร่ำรวยของโลก  ประชากรที่เป็นวัยหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่และมีวุฒิการศึกษา ซึ่งถือเป็นศักยภาพของเวียดนามนั่นเอง

เพื่อปฏิบัติตามเป้าหมายของปี ๒๐๑๔ ที่วางไว้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในปี ๒๐๑๔ นี้ ./.


คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด