ตำรวจตุรกีในตัวเมือง Saraqib จังหวัด Idlib ประเทศซีเรีย (Photo: AFP/TTXVN )

โดยย้ำว่า มีความเป็นไปได้น้อยสำหรับ “เขตปลอดภัย” ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเนื่องจากตุรกีได้เผยว่า อาจใช้มาตรฐานสากลในการรับผู้ลี้ภัย ส่วนอียูก็ยืนยันว่า จะไม่ให้การช่วยเหลือเพื่อรักษาความมีเสถียรภาพและการพัฒนาในเขตที่ทางการท้องถิ่นไม่ให้ความสนใจมากนักต่อสิทธิมนุษยชน

หลังการโจมตีของตุรกีเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา นาย Farhan Haq โฆษกของสหประชาชาติได้เผยว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติมีความกังวลเป็นอย่างมากต่อการโจมตีดังกล่าวและย้ำว่า ทุกปฏิบัติการทางทหารต้องให้ความเคารพกฎบัตรของสหประชาชาติและกฎหมายสากลเกี่ยวกับมนุษยธรรม

ในขณะเดียวกัน ประเทศต่างๆในยุโรปและหลายๆประเทศได้ประกาศคัดค้านการโจมตีของตุรกี โดยถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพในซีเรีย

บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ Twitter นาย ฌอง อีฟส์ ดริญอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสได้ประณามการโจมตีดังกล่าว โดยตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความมั่นคงและความพยายามของพันธมิตรในการต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสเพราะอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของยุโรป

ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่งประเทศเยอรมนีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดาได้ประณามว่า การโจมตีดังกล่าวอาจสร้างความไร้เสถียรภาพในภูมิภาคจนทำให้กลุ่มไอเอสฟื้นตัวได้

ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความหวังว่า ประธานาธิบดีตุรกีจะมีการตัดสินใจอย่างเฉลียวฉลาด พร้อมทั้งเตือนว่า ถ้าหากการโจมตีของตุรกีละเมิดมนุษยธรรม ตุรกีจะต้องเผชิญกับความเสียหายทางเศรษฐกิจ

บรรดาประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาเรนห์ ได้ประณามการโจมตีทางทหารของตุรกี โดยถือเป็นก้าวเดินที่อันตรายและเป็นการบุยึดดินแดนของประเทศที่มีอธิปไตย ซึ่งไม่สามารถยอมรับได้.