ประชามติตำหนิการที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงปารีส
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ทางการของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งจดหมายถึงสหประชาชาติโดยแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสปี 2015 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยสหรัฐจะถอนตัวออกจากข้อตกลงฉบับนี้ในวันที่ 4 พฤศจิกายนปี 2020 หลังจากจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 1 วัน
โฆษกของประธานาธิบดีรัสเซีย Dmitry Peskov (AFP) |
การตัดสินใจของทางการประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถูกตำหนิจากประเทศและองค์การต่างๆ
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นาย เกิงส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยว่า จีน “เสียดาย”เกี่ยวกับการตัดสินใจของสหรัฐ อีกทั้งแสดงความหวังว่า วอชิงตันจะ “สามารถแบ่งเบาภาระหน้าที่และทำมากขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมต่อกระบวนการร่วมมือพหุภาคีนี้ แทนการสร้างเรื่องในทางลบ” อีกทั้งเผยว่า สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่มนุษย์ต้องเผชิญ
ในวันเดียวกัน โฆษกของประธานาธิบดีรัสเซีย Dmitry Peskov ได้ตำหนิสหรัฐเกี่ยวกับการถอนตัวจากข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยแสดงความเห็นว่า ท่าทีนี้จะทำให้ข้อกตกลงฉบับนี้ “อ่อนแอลงตามวิธีการที่รุนแรงที่สุด” เนื่องจากสหรัฐเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกมากเป็นอันดับ 2 ในโลก อีกทั้งย้ำว่า ถ้าไม่มีความร่วมมือของสหรัฐ ก็ยากที่จะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงสภาพภูมิอากาศฉับอื่นๆ
ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมเยอรมนี Svenja Schulze ได้แสดงความเห็นว่า การตัดสินใจของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสิ่งที่ “น่าเสียดาย” แต่ไม่สร้างความแปลกใจเพราะผู้นำสหรัฐได้กล่าวถึงเรื่องนี้แล้วตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน
ในขณะเดียวกัน เลขาธิการองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก Mohammad Barkindo ได้ประกาศว่า ประเทศสมาชิกสนับสนุนข้อตกลงปารีสปี 2015เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน โฆษกของสหประชาชาติ Stephane Dujarric เผยว่า ความมุ่งมั่นของสหประชาชาติเกี่ยวกบข้อตกลงปารีส 2015 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงภายหลังการตัดสินใจของสหรัฐ โอเปก “เดินหน้าส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกเข้าร่วมก่อนจัดการประชุม COP25 ณ เมืองมาดริดเพื่อผลักดันความมุ่งมั่นป้องกันและขัดขวางการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.