(VOVWORLD) - ในหลายวันมานี้ ผู้นำประเทศต่างๆ บรรดาผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการและสื่อต่างประเทศให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการประชุมครั้งที่ 11 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24 มีนาคมถึงวันที่ 8 เมษายน ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของวาระสภาแห่งชาติสมัยที่ 14 โดยหนึ่งในเนื้อหาที่สำคัญคือการปรับคณะผู้นำรัฐ สภาแห่งชาติและรัฐบาลให้มีความสมบูรณ์
ภาพการประชุมครั้งที่ 11 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 (VNA) |
สำนักข่าว KPL ของลาวได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “สภาแห่งชาติเวียดนามแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆในคณะผู้บริหารของประเทศให้มีความสมบูรณ์” โดยได้ระบุถึงการที่สภาแห่งชาติเวียดนามเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ เช่น นาย เหงวียนซวนฟุก ดำรงตำแหน่งประธานประเทศ นาย เวืองดิ่งเหวะดำรงตำแหน่งประธานสภาแห่งชาติและนายฝ่ามมิงชิ้ง ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 และท่าน เหงวียนฟู้จ่องได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคฯอีกสมัย โดยผู้ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานประเทศ ประธานสภาแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีได้สร้างนิมิตหมายเกี่ยวกับความพยายาม ความคิดสร้างสรรค์และความรับผิดชอบสูงในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆที่ได้รับมอบหมาย
ส่วนเว็บไซต์ Cubadebate ของคิวบาได้รายงานว่า คณะผู้นำชุดใหม่ของเวียดนามจะขยายการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของชนชั้นกรรมกร อีกทั้งยกระดับทักษะการบริหารชี้นำและการต่อสู้ของพรรค สร้างสรรค์พรรคและระบบการเมืองให้เข้มแข็งและโปร่งใสในทุกด้าน สร้างสรรค์โครงสร้างระบบราชการให้กระทัดรัดและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนเว็บไซต์ของสถาบันวิจัยปัญหาระหว่างประเทศ S. Rajaratnam ของสิงคโปร์ได้ระบุว่า ปัจจัยที่สำคัญของคณะผู้นำชุดใหม่ของเวียดนามคือการผสมผสานระหว่างประสบการณ์และความกระตือรือร้นเพื่อนำประเทศเวียดนามปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาเป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูงตามแนวทางสังคมนิยมในช่วงกลางศตวรรษที่ 21
ส่วนเว็บไซต์ Events Magazine News ของอียิปต์ได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “ความคาดหวังต่อรัฐบาลชุดใหม่ของเวียดนาม” โดยระบุว่า เวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ โดยในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เวียดนามได้ปฏิบัติ 2 เป้าหมายพร้อมกันคือการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลก
ส่วนเว็บไซต์ El Universal และ Voces del Periodista ของเม็กซิโกได้รายงานว่า รัฐบาลเวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายบริหารเศรษฐกิจมหภาคเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและส่งเสริมการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกผ่านการลงนามข้อตกลงที่สำคัญๆ เช่น ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรป หรือ EVFTA ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือ CPTPPและข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านระดับภูมิภาคหรือ RCEP
ส่วนหนังสือพิมพ์ใหญ่ๆของรัสเซีย เช่น Tass, Ria Novosti, Izvestia, Kommersant…ได้ลงข่าวและบทความเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะผู้นำชุดใหม่ของเวียดนาม โดยระบุว่า เวียดนามจะสานต่อแนวทางและนโยบายพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจของนักลงทุน ประชาชนและประชาคมโลก.