ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนาม (Photo: VNA)

ท่านเจิ่นด่ายกวางได้ยืนยันว่า  ความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงคือความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และมีประสิทธิภาพ อินเดียสนับสนุนเวียดนามฝึกอบรมแหล่งบุคลากร ถ่ายทอดเทคโนโลยีและปล่อยสินเชื่อสำหรับใช้ในกิจกรรมด้านกลาโหม พร้อมทั้งเผยว่า  อินเดียคือหนึ่งใน10หุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ของเวียดนาม โดยในช่วง 10ปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 16ต่อปี เครือบริษัทใหญ่ๆของอินเดียกำลังผลักดันการลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม อินเดียให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อความร่วมมือด้านการศึกษาและฝึกอบรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ พลังงาน ปิโตรเลี่ยม การเกษตรและการท่องเที่ยวกับเวียดนาม นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้กระชับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคี โดยเฉพาะสหประชาชาติ และเผยว่า ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการค้าระหว่าง 2 ประเทศได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี 2007 และยกระดับขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเมื่อปี 2016 เวียดนามมีความประสงค์ว่า นักลงทุนอินเดียจะขยายการลงทุนในเวียดนามมากขึ้นเพื่อทำให้อินเดียเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามและยกระดับมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 ควบคู่กันนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายควรจัดทำกลไกการสนทนาระหว่างสถานประกอบการและระหว่างสถานประกอบการกับรัฐบาล จัดตั้งฟอรั่มเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่ให้ความสนใจ ยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนา

เกี่ยวกับนโยบาย “ปฏิบัติการมุ่งสู่ตะวันออก”ของอินเดีย ท่าน เจิ่นด่ายกวางได้ยืนยันว่า เวียดนามชื่นชมความพยายามและคำมั่นของอินเดียในการปฏิบัตินโยบายนี้ พร้อมทั้งผลักดันการเชื่อมโยงและความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับอาเซียน ในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดียระยะปี 2015 - 2018 เวียดนามจะให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอินเดียและกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างอินเดียกับประเทศสมาชิกอาเซียน.