(VOVWORLD) -ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 30 พฤศจิกายนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม เวียดนามพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 14,508 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 รายและมีผู้ที่ได้รับการรักษาหาย 2,704 ราย
จนถึงขณะนี้ เวียดนามมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,252,590 รายและมีผู้ที่ได้รับการรักษาหายสะสม 992,052 ราย
ตามรายงานของเว็บไซต์ worldometers.info จนถึงบ่ายวันที่ 1 ธันวาคม ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 กว่า 263 ล้านรายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 5.2 ล้านราย สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด รองลงมาคืออินเดียและบราซิล
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 มีความซับซ้อนมากขึ้นหลังจากที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาด รวมทั้งคำสั่งห้ามเข้าเมืองและผลักดันการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19
ที่ยุโรป ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรปหรือ ECDC ได้ประกาศว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ได้พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอน 42 รายใน 10 ประเทศสมาชิกอียู ในสภาวการณ์นี้ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ได้เริ่มทำการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชน ส่วนที่อังกฤษ ประชาชนต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไปซื้อของที่ร้าน ไปยังธนาคาร ร้านตัดผมและใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
ส่วนกัมพูชาได้ตัดสินใจห้ามผู้ที่เดินทางจากประเทศในแอฟริกาที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนเข้าเมืองและมาเลเซียได้ห้ามพลเมืองไปยัง 7 ประเทศแอฟริกาที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ใหม่นี้ รวมทั้งห้ามชาวต่างชาติที่เคยเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้ในรอบ 14 วันที่ผ่านมาเข้ามาเลเซีย
ในขณะเดียวกัน นาย เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้แสดงความวิตกังวลต่อการที่บางประเทศกำลังปฏิบัติมาตรการที่แข็งกร้าวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอน โดยเห็นว่า มาตรการดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพและไร้หลักฐาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศในแถบเอมิกาใต้ที่พบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ใหม่ ดังนั้นประเทศต่างๆต้องปฏิบัติมาตรการที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงและสอดคล้องกับกฎอนามัยระหว่างประเทศหรือ IHR 2005 ใช้ความอดกลั้นและมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดในทั่วโลก.