เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ให้การต้อนรับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย

บ่ายวันที่ 13 กันยายน ณ ทำเนียบประธานประเทศในกรุงฮานอย เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้ให้การต้อนรับนาย ปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซียที่กำลังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนาม ในการนี้ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้ชื่นชมผลสำเร็จเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของอินโดนีเซียในเวลาที่ผ่านมาจนกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหนึ่งในตลาดเทคโนโลยีดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในโลก มีความคิดริเริ่มและมีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพและความร่วมมือในภูมิภาคและโลก ส่วนนาย ปราโบโว ซูเบียนโตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียครั้งใหญ่จากพายุยางิในเวียดนาม พร้อมทั้งยืนยันว่า อินโดนีเซียให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือกับเวียดนาม ซึ่งเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เดียวของอินโดนีเซียในอาเซียน มีความประสงค์ที่จะปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้นับวันเข้าสู่ส่วนลึกและจริงจัง ผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับมาตรการขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ หารือเกี่ยวกับปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง  ให้การต้อนรับประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต

ส่วนในการให้การต้อนรับประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต เช้าวันที่ 14 กันยายน ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้อินโดนีเซียลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการค้าข้าว อำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าการเกษตรและอาหารฮาลาลของเวียดนามในการเข้าถึงตลาดอินโดนีเซีย สนับสนุนการยกเลิกใบเหลือง IUU ต่อสัตว์น้ำเวียดนาม          ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องเกี่ยวกับแนวทางการใช้ศักยภาพความร่วมมือ เพื่อพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028  ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะแก้ไขอุปสรรค การกีดกันทางการค้าและอำนวยความสะดวกให้แก่การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการค้าและการเข้าถึงตลาดสินค้าระหว่างกันน รวมทั้งสินค้าการเกษตรและอาหารฮาลาล เวียดนามพร้อมร่วมมือและช่วยเหลืออินโดนีเซียในการค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหาร

ประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต และประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน

ส่วนในการพบปะระหว่างประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน กับประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต เช้าวันที่ 14 กันยายน ณ อาคารสภาแห่งชาติ  ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ มุ่งสู่การยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน สำหรับความร่วมมือระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศในเวลาที่จะถึง ผู้นำทั้งสองท่านเห็นว่า สำนักงานนิติบัญญัติของทั้งสองประเทศควรขยายความสัมพันธ์ร่วมมือ ผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างคณะกรรมาธิการต่างๆ ของสภาแห่งชาติ กลุ่ม สส.มิตรภาพ สส.สตรีและสส.รุ่นใหม่ โดยเฉพาะการจัดทำกฎหมายและกลไกในด้านการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การขยายตัวแห่งสีเขียว การปรับเปลี่ยนด้านพลังงาน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประสานงานในการตรวจสอบการปฏิบัติข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือในทุกด้าน รวมทั้งการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ ท้องถิ่น สถานประกอบการ การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในฟอรั่มรัฐสภาพหุภาคี เป็นต้น.