(VOVworld) – ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำรัสเซียรายงานว่า วันที่ 10 พฤษภาคม ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศพร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางออกจากกรุงมอสโคว์ เสร็จสิ้นการเข้าร่วมพิธีฉลองครบรอบ 70ปีชัยชนะในสงครามพิทักษ์รักษาปิตุภูมิที่ยิ่งใหญ่ของรัสเซียและเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐเช็กในระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม

โดยในเช้าวันที่ 10 พฤษภาคม ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศเวียดนามได้ให้การต้อนรับนาย Andrey Vorobiev ผู้ว่าการมอสโคว์โดยชื่นชมการพัฒนาอย่างคล่องตัวของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับรัสเซียในเวลาที่ผ่านมาและด้านความร่วมมือที่ได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆของทั้งสองประเทศ ท่าน เจืองเติ๊นซางได้ชื่นชมการที่นครโฮจิมินห์และกรุงมอสโคว์ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือซึ่งเป็นการสร้างพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่การผลักดันความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นของทั้งสองประเทศและแสดงความเชื่อมั่นว่า ทั้งสองฝ่ายจะใช้โอกาสและศักยภาพอย่างเต็มที่เพื่อการร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเสนอให้นาย Andrey Vorobiev สนับสนุนสถานประกอบการของทั้งสองประเทศในการจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมเบา ณ มอสโคว์ซึ่งจะมีส่วนร่วมสร้างรูปแบบการผลิตที่เป็นมืออาชีพ มีอารยธรรม ทันสมัย สร้างงานทำให้แก่ชาวรัสเซียและชมรมชาวเวียดนาม สอดคล้องกับนโยบายผลักดันการผลิตสินค้าของรัสเซีย

ก่อนหน้านั้น เมื่อบ่ายวันที่ 9 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น ในการกล่าวปราศัยในการเจรจากับท่าน วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ท่าน เจืองเติ๊นซางได้ยืนยันว่า ชัยชนะในสงครามพิทักษ์รักษาปิตุภูมิที่ยิ่งใหญ่ของรัสเซียคือเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีความหมายแห่งยุค มีส่วนร่วมนำสันติภาพมาให้แก่โลก ให้กำลังใจและเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชให้แก่ประชาชาติในทวีปเอเชีย แอฟริกาและลาตินอเมริกา รวมทั้งประชาชนเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายยังหารือเกี่ยวกับปัญหาความร่วมมือทวิภาคีและมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับมาตรการต่างๆเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับรัสเซียให้มากขึ้นในระยะใหม่ สำหรับความสัมพันธ์ด้านการเมือง ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันที่จะแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การผลักดันความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ

สำหรับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ ผู้นำทั้งสองประเทศได้แสดงความเห็นว่า ความร่วมมือทวิภาคีในเวลาที่ผ่านมาได้พัฒนาอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ การที่ทั้งสองฝ่ายจะลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับพันธมิตรเศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรปในปลายเดือนพฤษภาคมปี 2015 จะสร้างก้าวกระโดดเพื่อการปฏิบัติเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งให้ความสำคัญต่อกิจกรรมของบริษัทปิโตรเลี่ยมของทั้งสองประเทศและบริษัทร่วมทุนที่กำลังสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในไหล่ทวีปของเวียดนามและบนดินแดนของรัสเซียและยืนยันว่า จะอำนวยความสะดวกให้แก่โครงการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันปัจจุบัน ตลอดจนโครงการใหม่ๆในด้านแปรรูปและกลั่นน้ำมัน

สำรับความสัมพันธ์ด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันว่า ต้องผลักดันการประสานงานในด้านนี้เข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสำคัญต่อความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆในเวลาที่ผ่านมา เสนอให้เน้นถึงการผลักดันความสัมพันธ์ในด้านที่มีจุดแข็ง รวมทั้งพิจารณาการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการแปรรูปสัตว์น้ำและป่าไม้ในเขต Primori  ตลอดจนการจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมเบา ณ มอสโคว์

บ่ายวันเดียวกัน ท่าน เจืองเติ๊นซางได้มีการพบปะกับนาย อับเดล ฟัตตาห์ อัลซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์โดยผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันว่า จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในฟอรั่มทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ในกรอบใต้-ใต้และขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด  ท่าน เจืองเติ๊นซางก็ได้เสนอให้ทั้งสองประเทศผลักดันความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้ประกอบการและการส่งเสริมการค้า การจัดตั้งสภาสถานประกอบการของทั้งสองประเทศและจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมครั้งที่ 5 ณ กรุงฮานอยโดยเร็วเพื่อตรวจสอบ ลงนามและให้สัตยาบันข้อตลกงร่วมมือฉบับต่างๆระหว่างสองประเทศ