ผลักดันความสัมพันธ์เวียดนาม-โมซัมบิก
(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 1 สิงหาคม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เป็นประธานในพิธีต้อนรับนาย คาร์ลอส อะกอสติโญ่ โด โรซาริโอนายกรัฐมนตรีโมซัมบิกพร้อมคณะผู้แทนโมซัมบิกในโอกาสเดินทางมาเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคมถึงวันที่ 3 สิงหาคม
นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เป็นประธานในพิธีต้อนรับนาย คาร์ลอส อะกอสติโญ่ โด โรซาริโอนายกรัฐมนตรีโมซัมบิก(chinhphu.vn)
|
หลังพิธีต้อนรับ ผู้นำทั้งสองประเทศได้ทำการเจรจา โดยเห็นพ้องที่จะธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ประสานงานและสนับสนุนกันในฟอรั่มระหว่างประเทศ มีส่วนร่วมต่อการธำรงสันติภาพและความร่วมมือทั้งในระดับภูมิภาคและโลกบนพื้นฐานของการให้ความเคารพกฎหมายสากล แก้ไขทุกการพิพาทด้วยสันติวิธี สอดคล้องกับกฎหมายสากล นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เสนอให้โมซัมบิกสนับสนุนเวียดนามลงสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 และตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโกวาระปี 2017-2021
ผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้องบรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าต่างตอบแทนสูงกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(Chinhphu.vn) |
สำหรับด้านการค้า การลงทุนและความร่วมมือพัฒนา โมซัมบิกมีความประสงค์ว่า กลุ่มบริษัท Viettel จะขยายการประกอบธุรกิจและเรียกร้องให้สถานประกอบการเวียดนามขยายการประกอบธุรกิจในด้านการค้า ปิโตรเลี่ยม การขนส่งทางทะเล การแปรรูปสินค้าเกษตรและสัตว์น้ำ ส่วนนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า เวียดนามมีความประสงค์ที่จะผลักดันความร่วมมือกับโมซัมบิกในหลายด้าน รวมทั้งการค้าและการลงทุน “สำหรับการค้า ต้องผลักดันหลายมาตรการเพื่อบรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าต่างตอบแทนสูงกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลาที่จะถึง นำโมซัมบิกกลายเป็นหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนามในแอฟริกา และเวียดนามกลายเป็นสะพานเชื่อมเพื่อให้โมซัมบิกเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับการลงทุน รัฐบาลทั้งสองประเทศชื่นชมกลุ่มบริษัทเวียดเทลที่ได้ประสบความสำเร็จในการลงทุนบริษัทโทรคมนาคม Movitellในโมซัมบิก ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในเวลาที่จะถึง การลงทุนและการค้าในด้านอื่นๆจะได้รับการผลักดัน โดยเฉพาะในด้านการเกษตร การท่องเที่ยว ปิโตรเลี่ยม สัตว์น้ำ คมนาคมขนส่ง การศึกษาและฝึกอบรม”
ส่วนนายกรัฐมนตรีโมซัมบิกมีความประสงค์ว่า สถานประกอบการเวียดนามจะลงทุนในโมซัมบิกมากขึ้น เช่นด้านการเกษตร รวมทั้งการปลูกข้าวและการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการผลิต อุตสาหกรรมแปรรูป เป็นต้น
หลังการเจรจา นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบักทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือด้านการปกป้องและอนุรักษ์พืชและสัตว์ป่า และการลงนามโดยย่อข้อตกลงเกี่ยวกับการให้บริการการขนส่งทางอากาศระหว่างเวียดนามกับโมซัมบิก.
ก่อนหน้านั้น เมื่อบ่ายวันที่31กรกฎาคม ณ กรุงฮานอย คณะผู้แทนระดับสูงของโมซัมบิกนำโดย นายกรัฐมนตรี คาร์ลอส อะกอสติโญ่ โด โรซาริโอ ได้เดินทางไปเยือนสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับการรับมือกับภัยธรรมชาติและการกู้ภัยเวียดนาม ในการนี้ พลโท ฝามหงอกมิง รองผู้บัญชาการกองทัพประชาชนเวียดนามและรองหัวหน้าคณะกรรมการฯได้ย้ำว่า รัฐบาลเวียดนามให้ความสนใจต่องานด้านการรับมือกับภัยพิบัติและการกู้ภัยเพื่อลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ส่วนนายกรัฐมนตรีโมซัมบิกได้เผยว่า ในเวลาที่จะถึง คณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับการรับมือภัยธรรมชาติและการกู้ภัยเวียดนามสามารถร่วมมือกับโมซัมบิกในการเรียนรู้รูปแบบการรับมือกับภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุต่างๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และทักษะความสามารถในการรับมือภัยธรรมชาติ.