ผลการเข้าร่วมดับเบิ้ลยูอีเอฟเอเชียตะวันออก2014-การเยือนฟิลิปปินส์ของนายกฯเวียดนาม
(VOVworld)-ความผันผวนที่อันตรายในทะเลตะวันออกอาจจะพลิกกลับกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
(VOVworld)-ความผันผวนที่อันตรายในทะเลตะวันออกอาจจะพลิกกลับกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
นายฝามกวางวิงรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการกิจกรรมของนายกฯเวียดนาม
|
ค่ำวันที่22พฤษภาคม ท่านเหงียนเตินหยุงนายกฯพร้อมคณะผู้แทนเวียดนามได้กลับถึงกรุงฮานอยเสร็จสิ้นการเยือนฟิลิปปินส์และเข้าร่วมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกแห่งเอเชียตะวันออกหรือ ดับเบิ้ลยูอีเอฟเอเชียตะวันออก2014 โดยนายกฯได้ส่งสาส์นที่สำคัญรวมสองประเด็นให้ทั่วโลกได้รับทราบว่า เวียดนามเข้าร่วมการแก้ไขทุกปัญหาของภูมิภาคและโลกในเชิงรุกและจุดยืนที่มั่นคงของเวียดนามในการปกป้องอธิปไตยของชาติในทะเลตะวันออก
ในกรอบของฟอรั่มเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ นายกฯได้เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในทุกการหารือ โดยเฉพาะบทปราศรัยที่อ่านในนัดเปิดประชุมได้สร้างความประทับใจและการสนับสนุนที่เข้มแข็งจากบรรดาผู้แทนที่เข้าร่วม ซึ่งนายกฯเวียดนามได้ย้ำถึงปัญหาหลักสองประการคือการสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัวอย่างยั่งยืนและไม่อาจพัฒนาประเทศได้ถ้าหากไม่มีบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพ ในมุมมองด้านเศรษฐกิจ จากแนวโน้มการผสมผสานอย่างเข้มแข็งเข้ากับกระแสโลกจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนระเบียบเศรษฐกิจและพลังขับเคลื่อนการขยายตัวผ่านการปฏิรูปโครงสร้างและระเบียบเศรษฐกิจ
เกี่ยวกับความผันผวนในทะเลตะวันออกที่ประชามติโลกกำลังจับตา นายกฯเหงวียนเตินหยุงได้ย้ำว่า “ไม่อาจพัฒนาได้ถ้าหากไม่มีสันติภาพและเสถียรภาพ”“การพิพาทด้านอธิปไตยในทะเลตะวันออกและเขตทะเลฮัวตุงมีความผันผวนที่ซับซ้อน คุกคามสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอย่าง ปัจจุบันปริมาณสินค้าทั่วโลก3ใน4ได้ถูกขนส่งผ่านทะเลและมี2ใน3ที่ผ่านทะเลตะวันออก ดังนั้นปัญหาความขัดแย้งจะส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนสินค้าและเรื่องนี้จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของทั้งภูมิภาคและโลกแม้กระทั่งอาจจะส่งผลเสียต่อกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกที่กำลังมีความคืบหน้า”
นายกฯได้แสดงความขอบคุณต่อบรรดาประเทศอาเซียนและมิตรประเทศทั่วโลกที่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจและสนับสนุนเวียดนามในการปกป้องอธิไตยแห่งชาติและผลประโยชน์อันชอบธรรมของเวียดนามที่สอดคล้องกับกฎหมายสากลพร้อมทั้งหวังว่าเวียดนามจะได้รับการสนับสนุนเช่นนี้ต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมป้องกันการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
นายกฯเวียดนามและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ณ กรุงมานิลา
|
ในการเจรจากับนายกฯเวียดนาม ณ กรุงมะนิลา ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เบนิกโน อากีโน ได้แสดงความวิตกกัลวลอย่างมากต่อสถานการณ์ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งในทะเลตะวันออก ผู้นำทั้งสองประเทศยังได้เห็นพ้องกันในมาตรการและเป้าหมายต่างๆเพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศโดยเฉพาะในด้านการป้องกันประเทศและความร่วมมือด้านมหาสมุทร โดยถือเป็นหนึ่งในเสาหลักแห่งความสัมพันธ์ทวิภาคี ประธานาธิบดีอานิกโน เบกีโนยืนยันว่า“ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับเวียดนามเช่นเดียวกับความร่วมมือกับประเทศต่างๆในอาเซียนในด้านกลาโหมและความมั่นคงจะช่วยผลักดันเสถียรภาพของภูมิภาค ซึ่งพวกเรายังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางทะเลและความร่วมมือระหว่างตำรวจทะเลของสองประเทศเพื่อปกป้องแหล่งทรัพยากรสัตว์น้ำและต่อต้านการกระทำผิดกฎหมายในทะเลและพื้นที่รอยต่อระหว่างสองประเทศ”
ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับการกิจกรรมของนายกฯเวียดนาม นายฝามกวางวิงรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศได้เผยว่า“ในการหารือเรื่องทะเลตะวันออกผู้นำของฟิลิปปินส์ได้มีการแลกเปลี่ยนทัศนะและข้อมูลข่าวสารที่จริงจังกับนายกฯเวียดนาม โดยแสดงความเห็นพ้องกับจุดยืนของเวียดนามคือยืนหยัดมาตรการที่สันติตามกฎหมายสากลเพื่อแก้ไขข้อพิพาทและป้องกันการรุกล้ำเขตทะเลและอธิปไตยของประเทศอื่นตามกฎหมายสากลและอนุสัญญาเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเล ฟิลิปปินส์ยืนยันให้การสนับสนุนความพยายามของเวียดนามในการสร้างสรรค์บรรยากาศแห่งสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก โดยเฉพาะผลักดันการอนุมัติระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออก แต่อย่างไรก็ดีฝ่ายฟิลิปปินส์ยังมีความเห็นว่าจนถึงขณะนี้ หลังจากได้ทำการสนทนาหลายครั้งกับฝ่ายจีนแต่ไม่ประสบผล เวียดนามควรดำเนินมาตรการทางกฎหมายต่อไป”./.