พิธีรำลึกครบรอบ๗๐ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่๒ในประเทศญี่ปุ่น
(VOVWorld)-ญี่ปุ่นให้คำมั่นว่า จะไม่ปล่อยให้เกิดโศกนาฏกรรมสงครามอีก สร้างสรรค์อนาคตประเทศญี่ปุ่นเพื่อชนรุ่นปัจจุบันและชนรุ่นต่อๆไป
สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะแห่งญี่ปุ่น
|
(VOVWorld)-
วันที่๑๕สิงหาคม ณ ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการจัดพิธีรำลึกครบรอบ๗๐ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่๒ โดยมีสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะแห่งญี่ปุ่นและสมเด็จพระราชินี นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ เจ้าหน้าที่ระดับสูง ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตรวม๕๐๐๐คนเข้าร่วม ในการกล่าวปราศรัยในพิธี นาย ชินโซ อาเบะได้ย้ำว่า ญี่ปุ่นให้คำมั่นว่า จะไม่ปล่อยให้เกิดโศกนาฏกรรมสงครามอีก สร้างสรรค์อนาคตประเทศญี่ปุ่นเพื่อชนรุ่นปัจจุบันและชนรุ่นต่อๆไป ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะแห่งญี่ปุ่นทรงชี้ชัดว่า จากการหวนมองดูอดีตและจดจำความเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อสงคราม ข้าพเจ้าขออธิษฐานว่า สงคามทำลายล้างจะไม่เกิดขึ้นอีก สื่อต่างๆของญี่ปุ่นได้ประเมินว่า นี่เป็นครั้งแรกที่พระจักรพรรดิอะกิฮิโตะแห่งญี่ปุ่นทรงแสดงความ “เสียใจอย่างสุดซึ้ง”ในพิธีรำลึกการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่๒
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่๑๔สิงหาคม ณ สำนักรัฐบาล นาย ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้กล่าวปราศรัยโดยย้ำอีกครั้งถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและคำขอโทษของรัฐบาลญีปุ่นเกี่ยวกับการกระทำในสงครามโลกครั้งที่๒ โดยย้ำว่า จะป้องกันไม่ให้เกิดการใช้กำลังในการแก้ไขการพิพาทระหว่างประเทศ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบจากลัทธิขุนศึกในสงครามโลกโดยเฉพาะ จีนและสาธาณรัฐเกาลหลีได้แสดงท่าทีต่อบทปราศรัยดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นาง ปาร์กกึมเฮ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศว่า บทปราศรัยดังกล่าวของนาย ชินโซ อาเบะไม่ตอบสนองความปรารถนาของสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมทั้ง เรียกร้องให้ญี่ปุ่นมีปฏิบัติการที่จริงจังเพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ตำหนิบทปราศรัยดังกล่าวของนายอาเบะ ในวันเดียวกัน นาง ฮั่วชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นขอโทษอย่างจริงจังเกี่ยวกับการกระทำในอดีต ส่วนโฆษกของนาย บันคีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้แสดงความหวังว่า ประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องอาจทำการไกล่เกลี่ย สร้างสรรค์สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ส่วนทำเนียบขาวได้แสดงความยินดีต่อบทปราศรัยดังกล่าวของนาย ชินโซ อาเบะ.