ภารกิจของนายกรัฐมนตรีฮังการีในเวียดนาม

(VOVWORLD) -เมื่อบ่ายวันที่25กันยายน ณ กรุงฮานอย ท่านเจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนามให้การต้อนรับนาย ออร์บาน วิกเตอร์  นายกรัฐมนตรีฮังการีที่กำลังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่24-26กันยายน 
ภารกิจของนายกรัฐมนตรีฮังการีในเวียดนาม - ảnh 1นาย ออร์บาน วิกเตอร์  นายกรัฐมนตรีฮังการีและท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนาม 

ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนามได้ย้ำว่า การเยือนครั้งนี้ช่วยเปิดศักยภาพใหม่ให้แก่ความร่วมมือระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้ง แสดงความยินดีต่อผลการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ โดยได้ลงนามเอกสารความร่วมมือในด้านต่างๆ อีกทั้ง เสนอให้ทั้งสองประเทศผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ความร่วมมือระหว่างกระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการต่างๆเพื่อปฏิบัติข้อตกลงความร่วมมือที่ได้บรรลุ  ประธานประเทศเวียดนามยังชื่นชมการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างสองประเทศในฟอรั่มระดับโลก พร้อมทั้ง กล่าวขอบคุณฮังการีที่ได้ให้การสนับสนุนเวียดนามในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสภาเศรษฐกิจ-สังคมแห่งสหประชาชาติวาระปี2016-2018และคำมั่นเกี่ยวกับการสนับสนุนเวียดนามในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี2020-2021 พร้อมทั้ง เสนอให้ฮังการีให้การสนับสนุนและผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปหรืออียู  รวมทั้ง การลงนามและอนุมัติข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียู

ส่วนนายกรัฐมนตรีฮังการีได้แสดงความประสงค์ว่า ท่านประธานประเทศเวียดนามจะให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมฮังการีในกรุงฮานอย  ฮังการียินดีต้อนรับสถานประกอบการเวียดนามที่เข้ามาร่วมมือและลงทุนในประเทศฮังการีและพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเวียดนามกับประเทศในยุโรปตะวันออก ฮังการีให้คำมั่นที่จะเป็นประเทศสมาชิกแรกของอียูที่อนุมัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียู.

ในบ่ายวันเดียวกัน ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรีฮังการี ออร์บาน วิกเตอร์และรองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม หวูดึ๊กดาม ได้เป็นประธานในฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-ฮังการี  ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย หวูดึ๊กดาม ได้ย้ำว่า ฟอรั่มนี้เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีความหมายสำคัญ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี  พร้อมทั้ง เผยว่า รัฐบาลเวียดนามให้คำมั่นที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการฮังการีในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน  ส่วนนายกรัฐมนตรีฮังการีได้ยืนยันว่า ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต47ปีแล้ว ดังนั้น การเลือกเวียดนามเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด