(VOVworld) – ในระหว่างวันที่ 22 – 23 กรกฎาคม ที่กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน – อียูครั้งที่ 20 หรือเออีเอ็มเอ็มภายใต้หัวข้อ “มุ่งสู่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน – อียู เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรือง” และนี่เป็นครั้งแรกที่เวียดนามเป็นประธานร่วมกับอียูเนื่องจากเวียดนามกำลังเป็นผู้ประสานงานความสัมพันธ์สนทนาระหว่างสองฝ่ายช่วงปี 2012-2015 ส่วนที่ประชุมได้มีความเห็นพ้องกันว่าจะยกระดับความสัมพันธ์อาเซียน - อียูขึ้นเป็นระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์

ในด้านการเมือง อาเซียนและอียูเห็นพ้องกันที่จะขยายการสนทนาและที่ปรึกษาด้านการเมืองและความมั่นคง รวมทั้งการปรึกษากันในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลกเพื่อมีเสียงพูด บทบาทและส่วนร่วมมากขึ้นต่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของภูมิภาคและโลก

ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายได้พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนและเห็นพ้องกันที่จะฟื้นฟูการเจรจาอาเซียน – อียูว่าด้วยข้อตกลงการค้าเสรีเอฟทีเอหลังปี 2015โดยเร็ว เพิ่มความเชื่อมโยงทั้งทางอากาศ ทางทะเลและทางบก พัฒนาสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมและจัดการปรึกษาด้านเศรษฐกิจระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนและอียูเป็นประจำ

อียูให้คำมั่นที่จะช่วยเหลืออาเซียนขยายความเชื่อมโยงในภูมิภาคและเพิ่มเงินช่วยเหลือการพัฒนาให้แก่อาเซียนขึ้นเป็น 170 ล้านยูโรในช่วงปี 2014-2020 จากวงเงิน 70 ล้านยูโรในช่วงปี 2007-2013

สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก นายฝ่ามกวางวิงห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามเผยว่า  “ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจถึงสถานการณ์ทะเลตะวันออก ซึ่งรัฐมนตรีอาเซียนและอียูทุกท่านต่างแสดงความกังวลมากและยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายสากล เคารพแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและบรรลุร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว พร้อมทั้งย้ำว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทุกฝ่ายต้องมีความอดกลั้น ไม่ข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธ แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีและปฏิบัติตามกฎหมายสากล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของอาเซียนและอียูเกี่ยวกับสันติภาพและความมั่นคงในทะเลตะวันออก”

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนและอียูได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุเครื่องบิน MH 17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ตกในภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อเร็วๆนี้

ในฐานะที่เป็นประเทศประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน – อียู คณะผู้แทนเวียดนามได้ทำหน้าที่ผู้ประสานงานของการประชุมโดยวางแนวทางที่ให้สิทธิ์พิเศษเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์นี้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ในอนาคต นาย Michael Mann โฆษกของนางแคทเธอรีน แอสตั้น ตัวแทนระดับสูงของสหภาพยุโรปว่าด้วยการต่างประเทศและความมั่นคง รองประธานคณะกรรมการยุโรปประเมินว่า “ในฐานะประธานร่วม เวียดนามได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็ง ซึ่งนายฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ร่วมเป็นประธานการประชุมกับนางแอสตั้น รองประธานคณะกรรมการยุโรป ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับอียูมีบทบาทสำคัญ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างมีประโยชน์และประสบการณ์ที่สำคัญเพื่อเรียนรู้ระหว่างกันและผลักดันความสัมพันธ์นี้ให้พัฒนายิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันแบบปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในด้านต่างๆเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายขึ้นสู่ระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึก”

การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน – อียูครั้งที่ 20 ได้ชื่นชมบทบาทเป็นผู้ประสานของเวียดนามนับตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมควบคุมและเตรียมพร้อมให้การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ./.