ยกย่องสดุดีงานด้านชุมชนชาวเวียดนามในประเทศไทย
นักข่าว VOV-Bangkok -  
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ในโอกาสฉลองครบรอบ 46 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับไทยซึ่งตรงกับวันที่ 6 สิงหาคม สถานเอกทูตเวียดนามประจำประเทศไทยได้จัดพิธีมอบหนังสือชมเชยให้แก่อดีตผู้บริหารของทางการท้องถิ่นไทย
เอกอัครราชทูต ฟาน ชี้ แถ่ง มอบหนังสือเชิดชูเกียรติของสถานทูตฯให้แก่นาย อดิศักดิ์ เทพอาสน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จังหวัดสกลนคร และจังหวัดอุดรธานี |
ในนามของรัฐบาลและสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูต ฟาน ชี้ แถ่ง ได้มอบหนังสือเชิดชูเกียรติของสถานทูตฯให้แก่นาย อดิศักดิ์ เทพอาสน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จังหวัดสกลนคร และจังหวัดอุดรธานี และนาย ดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เนื่องจากให้การสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในจังหวัด เช่น การจัดเทศกาลปีใหม่ตามประเพณีร่วมกันสำหรับชาว เวียดนาม จีน และไทย ซึ่งกิจกรรมที่ดีงามนี้ได้ขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทย.
โอกาสนี้ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม อดิศักดิ์ เทพอาสน์ กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งเมื่อทางสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามได้รับทราบและยกย่องส่วนร่วมของตนต่อชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ตลอดจนเพื่อมิตรภาพระหว่างเวียดนามและไทย ซึ่งในระหว่างการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จังหวัดสกลนคร ผมก็ตั้งใจมีส่วนร่วมสนับสนุนการก่อสร้างอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ เพื่อร่วมเสริมสร้างความสามัคคีและมิตรภาพระหว่างประชาชนชาวไทยและเวียดนามรวมทั้งการพัฒนาของชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในประเทศไทย ซึ่งผมรู้สึกดีใจมากเมื่อเห็นว่าชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้ได้แสดงความรักใคร่และความสามัคคีช่วยเหลือจุนเจือกัน รวมถึงความพยายามที่จะมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของท้องถิ่นที่พวกเขาอาศัย"
ส่วนนายเลกวนวิงห์ นายกสมาคมชาวเวียดนามประจำจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารจังหวัดสกลนครนาย อดิศักดิ์ เทพอาสน์ และนายดำรงค์ สิริวิชย ได้อนุมัตินโยบายต่างๆเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในจังหวัด เช่น จัดงานเทศกาลตรุษเต๊ตประเพณีร่วมกันให้แก่คนสามชาติเวียดนาม จีน และไทย และจนถึงปัจจุบันกิจกรรมนี้ก็ยังได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางในหลายจังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย./.
นักข่าว VOV-Bangkok