(VOVworld) – เช้าวันที่ 24 ตุลาคม ในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 2 สมัยที่ 14 ภายใต้อำนวยการของนาย ฝุ่งก๊วกเหียน รองประธานรัฐสภา บรรดาผู้แทนได้รับฟังรายงานการชี้แจง รวบรวมความคิดเห็นและการปรับปรุงร่างกฎหมายการประมูลทรัพย์สิน และหารือเกี่ยวกับเนื้อหาที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันของร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยตามรายงานของนาย หวูห่งแทง หัวหน้าคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งรัฐสภา มีหลายความคิดเห็นเสนอว่า ไม่ควรระบุการประมูลหนี้เสียและทรัพย์สินที่ใช้ค้ำประกันหนี้เสียของบริษัทบริหารทรัพย์สินขององค์การสินเชื่อเวียดนามหรือวีเอเอ็มซีในร่างกฎหมายฉบับนี้ ตามข้อกำหนดของกฎหมายปัจจุบัน วีเอเอ็มซีสามารถปรับวงเงินหนี้เสีย ให้การช่วยเหลือลูกค้าในการกู้เงิน เจรจากับลูกค้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนวงเงินกู้ให้เป็นเงินร่วมทุนเพื่อเข้าร่วมการปรับปรุงโครงสร้างการเงินและกิจกรรมของลูกค้าที่กู้เงินและขายหนี้ให้แก่องค์การและบุคคล
บรรดาผู้แทนรัฐสภายังหารือเกี่ยวกับเนื้อหาที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เช่นทรัพย์สินที่ต้องผ่านการประมูลตามข้อกำหนดของกฎหมาย การฝึกอบรมและออกใบรับรองสำหรับการประมูลให้แก่นักประมูล และองค์การสังคม-อาชีพทั่วประเทศ
ส่วนในช่วงบ่าย ที่ประชุมได้รับฟังรายงานของหัวหน้าคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม การศึกษา เยาวชน ยุวชนและเด็กแห่งรัฐสภาเกี่ยวกับร่างกฎหมายความเลื่อมใสและศาสนา โดยบรรดาผู้แทนได้แสดงความเห็นว่า เนื้อหาที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาของทุกคน และการให้ความเคารพการปกป้องสิทธินี้ของรัฐในร่างกฎหมายยังไม่สมบูรณ์ พร้อมทั้งเสนอให้เพิ่มเติมข้อกำหนดที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายด้านการประกอบศาสนกิจเพื่อตอบสนองความต้องการด้านจิตใจของประชาชน สอดคล้องกับเกียรติประวัติที่ดีงามของประชาชาติ
หลังจากนั้น สมาชิกรัฐสภาได้หารือและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันของร่างกฎหมายฉบับนี้โดยนาย ทิกแทงเกวียต สมาชิกรัฐสภาจังหวัดกว๋างนิงห์ได้แสดงความเห็นว่า “การจัดทำและประกาศใช้กฎหมายเป็นสิ่งที่จำเป็น มีส่วนร่วมแปรข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญปี 2013 ให้เป็นรูปธรรม ค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการประกอบศาสนกิจของทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่นับถือข้อกำหนดหลายข้อเกี่ยวกับการขอและการรับเมื่อก่อนถูกทดแทนด้วยการจดทะเบียนหรือประกาศแจ้ง กฎหมายมี 1 บรรพที่กำหนดสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาของทุกคนและกำหนดความรับผิดชอบของรัฐต่อกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งมีส่วนช่วยให้องค์การศาสนาผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้สะดวกขึ้น กฎหมายยังให้ความสำคัญต่อสถานะทางนิตินัยของการประกอบศาสนกิจทั่วไป โดยเฉพาะการรับรององค์การศาสนามีความสะดวกและโปร่งใสมากขึ้น”
นับเป็นครั้งแรกที่สิทธิเสรีภาพด้านความเลื่อมใสของชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยที่ชอบด้วยกฎหมายในเวียดนามถูกระบุอย่างสมบูรณ์มากขึ้นในร่างกฎหมาย เพราะได้มี 1 หมวดรวม 7 มาตราที่กำหนดเกี่ยวกับการประกอบศาสนกิจที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ และมี 1 มาตราที่ระบุเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาของชาวต่างชาติ โดยชาวต่างชาติมีสิทธิ์ประกอบศาสนกิจเหมือนพลเมืองเวียดนาม รวมทั้งการเข้าเรียนในสถาบันศึกษาด้านศาสนาของเวียดนามหรือได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งทางศาสนาจากองค์การศาสนาเวียดนาม.