(VOVworld) - ในการประชุมรัฐสภาเมื่อเช้าวันที่ 17 พฤศจิกายน บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจมหภาค โครงสร้างของรัฐบาล การต่อต้านการทุตจริตคอร์รัปชั่นและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก

ในการพัฒนาเศรษฐกิจมหภาค นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า เป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมที่รัฐสภาได้อนุมัติถือเป็นเป้าหมายระดับสูงในขณะที่เวียดนามกำลังประสบความลำบากมากมาย แต่ถึงกระนั้น รัฐบาลก็พยายามบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้อย่างดีที่สุดและจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาการผลักดันการดึงดูดการลงทุน กระตุ้นการอุปโภคบริโภคและผลักดันการส่งออก ควบคู่กันนั้น ต้องสร้างบรรยากาศการลงทุนที่โปร่งใสและส่งเสริมการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ

“เวียดนามได้ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก แต่ก็ต้องสร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจที่มั่นคงและพึ่งพาตนเอง ต้องพัฒนาจุดแข็งต่างๆ เช่น การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ คํ้าประกันความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานเพื่อจะได้ไม่ต้องอาศัยแหล่งจัดสรรค์จากประเทศอื่นๆ”

นายกรัฐมนตรีได้เผยว่า เวียดนามจะเน้นแก้ไขปัญหาหนี้เสียผ่านการสร้างกรอบทางนิตินัย ทำการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้เสียขึ้นอีกและปรับปรุงร่างโครงการแก้ไขหนี้เสียแบบบูรณาการ ส่วนสำหรับโครงการสำคัญที่ดำเนินงานขาดประสิทธิภาพและสร้างความเสียหายต่อรัฐ  นายกรัฐมนตรีได้ชี้ชัดถึงมาตรการแก้ไขปัญหาว่า จะขายโครงการดังกล่าวหรือเปิดประมูลให้บริษัทต่างๆเข้าไปซื้อหุ้น

สำหรับงานด้านต่างประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐหลังจากที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า เวียดนามพร้อมที่จะร่วมมือกับสหรัฐเพื่อการพัฒนาและผลประโยชน์ร่วมกันบนพื้นฐานการให้ความเคารพเอกราช บูรณภาพแห่งดินแดนและไม่สร้างความเสียหายต่อกัน

เกี่ยวกับอนาคตของข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพี นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า“เวียดนามได้เตรียมเงื่อนไขต่างๆเพื่อเข้าร่วมข้อตกลงนี้และถึงแม้ทีพีพีจะได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาประเทศสมาชิกหรือไม่ เวียดนามก็ยังคงเดินหน้าผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจอย่างกว้างลึก โดยเฉพาะการผสมผสานเข้ากับอาเซียน”

ส่วนในการกล่าวสรุปผลการตั้งและตอบกระทู้ถามสมาชิกรัฐบาลเมื่อเช้าวันที่ 17 พฤศจิกายน นาง เหงวียนถิกิมเงิน ประธานรัฐสภาได้ให้ข้อสังเกตว่า“การตั้งและตอบกระทู้ถามในรอบ 2 วันที่ผ่านมาได้ดำเนินไปท่ามกลางบรรยากาศที่มีประชาธิปไตยและตรงไปตรงมา โดยมีผู้แทนรัฐสภา 200 คนตั้งกระทู้ถามเพื่อวิเคราะห์และทำความกระจ่างแจ้งปัญหาต่างๆ ส่วนบรรดาสมาชิกรัฐบาลได้ชี้แจงปัญหาและมีความตั้งใจเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว”

ประธานรัฐสภาเผยว่า จะมอบหมายหน้าที่ให้คณะกรรมาธิการต่างๆของรัฐสภาตรวจสอบการปฏิบัติตามเนื้อหาในการตอบกระทู้ถามของสมาชิกรัฐบาลในการประชุม.