ร่วมแรงร่วมใจเพื่อให้สินค้าการเกษตรเวียดนามขึ้นสู่อันดับหนึ่งของโลก

(VOVWORLD) - เช้าวันที่30กรกฎาคม ณ เมืองดาลัด จังหวัดเลิมด่ง ได้มีการจัดการประชุมทั่วประเทศภายใต้หัวข้อ “ผลักดันการลงทุนของผู้ประกอบการในด้านการเกษตร”ภายใต้อำนวยการของนายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก
ร่วมแรงร่วมใจเพื่อให้สินค้าการเกษตรเวียดนามขึ้นสู่อันดับหนึ่งของโลก - ảnh 1ร่วมแรงร่วมใจเพื่อให้สินค้าการเกษตรเวียดนามขึ้นสู่อันดับหนึ่งของโลก 

วัตถุประสงค์ของการประชุมก็เพื่อแสวงหามาตรการพัฒนาการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสให้แก่สถานประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศลงทุนในด้านการเกษตร โดยมีผู้บริหารกระทรวง หน่วยงาน สำนักงานภาครัฐและท้องถิ่น ตัวแทนขององค์การและชมรมผู้ประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศรวม600คนเข้าร่วม ในการประชุม ผู้แทนทุกคนต่างย้ำถึงบทบาทที่เป็นศูนย์กลางของสถานประกอบการ โดยต้องถือสถานประกอบการเป็นแกนหลัก เกษตรกรเป็นผู้ทำการเกษตรและผลักดันการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อพัฒนาการเกษตร นอกจากนี้ยังมีนโยบายดึงดูดเงินลงทุนเข้าในการผลิตเกษตร และมีการสร้างระบบการเชื่อมโยงระหว่างการผลิตและตลาดรองรับ มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆเพื่อพัฒนาการเกษตร แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและมีการวางแผนที่ดินเพื่อการผลิตสินค้าการเกษตร โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้กล่าวสรุปว่า            “เวียดนามยังมีศักยภาพด้านการเกษตรมากมายเพื่อที่จะใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในยุกการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 รัฐบาลและชมรมผู้ประกอบการเวียดนามต้องร่วมแรงร่วมใจเพื่อให้สินค้าการเกษตรเวียดนามขึ้นสู่อันดับหนึ่งของโลก ในอีก 10 ปีข้างหน้า ต้องพัฒนาการเกษตรเวียดนามให้อยู่ในกลุ่ม 15 ประเทศที่มีการเกษตรพัฒนาที่สุดของโลก ส่วนหน่วยงานแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตรต้องอยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศที่พัฒนาที่สุดของโลก และเวียดนามจะกลายเป็นศูนย์กลางการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรของโลก เป็นศูนย์กลางโลจิสติกในด้านการค้าและผลิตภัณฑ์การเกษตรของโลก”.

นาย เหงวียนดิ่งเซิน ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนเทคโนโลยีชีวภาพหรื่งฮวาดาลัดได้เผยว่า “การดึงดูดการลงทุนในด้านการเกษตรยังประสบอุปสรรค์ต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเงินทุน ถ้าหากไม่มีเงินกู้ระยะกลางและระยะยาวก็ยากที่จะพัฒนาได้ ปัจจุบัน กระทรวงการเกษตรบริหารพันธุ์พืชใหม่อย่างเข้มงวด เมื่อพวกเรานำเข้าพันธุ์พืชใหม่ก็ต้องทำตามระเบียบรการที่ซ้ำซ้อน ซึ่งทำให้เกิดอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดและการส่งออก ถ้าหากไม่มีที่ดินเพื่อการผลิตเกษตรก็ยากที่จะดึงดูดการลงทุนได้”

ตั้งแต่ต้นวาระการดำรงตำแหน่งมาจนถึงปัจจุบัน นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้เป็นประธานในการประชุมเกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตรและชนบท รวมทั้ง การประชุมเกี่ยวกับการสร้างสรรค์อุตสาหกรรมการเกษตรเวียดนามเมื่อปี2016 มาตรการพัฒนาหน่วยงานข้าวในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืนเมื่อปี2017 ฟอรั่มการพัฒนาตลาดผักผลไม้และมาตรการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อสนับสนุนการเกษตรและชนบทเมื่อปี2017 การสนทนากับเกษตรกรเวียดนามเกี่ยวกับปัญหาการเกษตรและชนบทเมื่อปี2018.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด