ผู้นำรัสเซียและสหรัฐ (Photo: AFP)

  ถึงแม้สหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศสได้โจมตีซีเรียด้วยจรวด เมื่อวันที่ 16 เมษายน นาย Dmitry Peskov โฆษกวังเครมลินได้เผยว่า รัสเซียหวังว่า จะสนทนากับสหรัฐ พร้อมทั้งชี้ชัดว่า หลังจากที่สหรัฐแก้ไขปัญหาต่างๆภายในประเทศ ทั้ง 2 ประเทศจะเริ่มการติดต่อกันถึงแม้สหรัฐเป็นฝ่ายสร้างความเสียหายให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีก็ตาม และเผยว่า ปัจจุบัน ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้หารือถึงแผนจัดการพบปะระดับสูงระหว่างนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐกับนาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

ในวันเดียวกัน นาง Sarah Sanders โฆษกทำเนียบขาวได้เผยว่า กำลังพิจารณาการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียหลังการโจมตีที่สงสัยว่า มีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน ประกาศหลังการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป หรือ อียู ณ ประเทศลักเซมเบิร์กได้เรียกร้องฟื้นฟูความพยายามเพื่อแสวงหามาตรการทางการเมืองเพื่อแก้ไขการปะทะที่ยืดเยื้อในตลอด 7ปีที่ผ่านมาในซีเรีย พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่สามารถใช้มาตรการทางทหารในซีเรียและยืนยันอีกครั้งถึงคำเรียกร้องผลักดันการเจรจา ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ภายใต้การสนับสนุนของสหประชาชาติเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ บรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอียูได้เห็นพ้องกันว่า ต้องส่งเสริมคำสั่งหยุดยิงและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในซีเรียผ่านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ.