งานราตรีเกียรติประวัติและมอบรางวัล

มอบรางวัลการประกวดความรู้เกี่ยวกับ๔๐ ปีชัยชนะฮานอยเดียนเบียนฟูกลางเวหา

คณะกรรมการจัดงานได้มอบรางวัลพิเศษ ๑ รางวัล  รางวัลที่ ๑ สองรางวัล  รางวัลที่ ๒ ห้ารางวัล และรางวัลที่ ๓  ๑๐ รางวัลให้แก่บุคคลและอีก ๑๒ รางวัลให้แก่คณะบุคคล  การประกวดความรู้เกี่ยวกับ๔๐ ปีชัยชนะฮานอยเดียนเบียนฟูกลางเวหาโดยกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ส่วนกลางจัดขึ้นเป็นเวลา ๑ เดือนตั้งแต่วันที่ ๒๓ ตุลาคม – วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนโดยเน้นในเยาวชนเกี่ยวกับเกียรติประวัติ ยกระดับจิตสำนึกและความรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับประวัติศาตร์อันรุ่งโรจน์ระยะหนึ่งของประเทศ  
ส่วนเช้าวันที่๒๖เดือนนี้ ที่อนุสาวรีย์Khâm Thiên เขตĐống Đa กรุงฮานอย ได้มีการจัดพิธีรำลึกพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของสหรัฐ เมื่อเดือนธันวาคมปี๑๙๗๒โดยมีท่านNguyễn Thị Kim Ngân รองประธานรัฐสภา และท่านNguyễn Thiện Nhânรองนายกรัฐมนตรีเข้าร่วม  เดือนธันวาคมปี๑๙๗๒สหรัฐได้เปิดฉากการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ด้วยเครื่องบินบี๕๒เพื่อทำลายกรุงฮานอยและเป้าหมายอื่นๆ การทิ้งระเบิดเมื่อคืนวันที่๒๖ธันวาคมทำให้เขตชุมชนKhâm Thiên ถูกทำลายยับเยินโดยมีผู้เสียชีวิต๒๗๘คนและผู้ได้รับบาดเจ็บ๒๙๐คน บ้านเลขที่๕๑ถนน Khâm Thiênกลายเป็นหลุมระเบิดซึ่งสมาชิกในบ้าน๗คนเสียชีวิตทั้งหมดและปัจจุบันที่นี่เป็นอนุสาวรีย์Khâm Thiên นางNguyễn Thúy Nga ชาวฮานอยที่มาจุดธูปสักการะอนุสาวรีย์ได้กล่าวว่า “เมื่อเดินผ่านที่นี่ทุกครั้ง ดิฉันต่างก้มศรีษะและกำชับให้บุตรหลานทำด้วยเพื่อแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อบรรดาผู้ที่ได้สละชีพเพื่อชาติและประชาชนที่ได้เสียชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่เยาวชนควรรักษา”   ในการนี้ ท่านPhạm Quang Nghị เลขาธิการพรรคสาขากรุงฮานอยได้กล่าวว่า  ชัยชนะเดียนเบียนฟูกลางเวหาเป็นเพลงแห่งวีรภาพที่อมตะในการต่อสู้เพื่อสร้างและรักษาประเทศของประชาชาติเวียดนามที่ผู้บังคับบัญชา ทหารและชาวฮานอยรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้แต่งขึ้นด้วยความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น สติปัญญาที่แจ่มจรัสของลัทธิวีรภาพแห่งการปฏิวัติเวียดนาม และความเสียสละอันยิ่งใหญ่             เช้าวันเดียวกัน ที่นครโฮจิมินห์ กรมการเมืองกองทัพภาคที่๗ได้จัดนิทรรศการภาพในหัวข้อ“ฮานอยเดียนเบียนฟูกลางเวหา”  พันเอกNguyễn Duy Thiện ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ กองกำลังติดอาวุธกองทัพภาคที่๗ ได้กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดนิทรรศการนี้คือเพื่อสดุดีวีรกรรมอันรุ่งโรจน์ของทหารและประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะ ทหาร ชาวฮานอยและท้องถิ่นบางแห่งในภาคเหนือที่ได้สู้รบอย่างกล้าหาญเพื่อต่อต้านการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ อีกทั้งช่วยให้เยาวชนเข้าใจความเสียสละของชนรุ่นก่อนและมีความตั้งใจที่จะพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ” ./.