ภาพของการประชุม

นี่เป็นข้อสังเกตของบรรดาเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิก EAEUและตัวแทนของสำนักงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามในการประชุมโต๊ะกลม เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ณ กรุงฮานอย

ในการนี้ บรรดาผู้แทนได้ให้ข้อสังเกตว่า ก่อนที่บรรลุข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับEAEU มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรปกับเวียดนามในช่วงปี 2011—2015 อยู่ในระดับเฉลี่ยร้อยละ 5ต่อปีเท่านั้น แต่หลังจากที่ข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองฝ่ายอยู่ที่เกือบร้อยละ 30 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองฝ่ายใน 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและคาดว่า ในปี 2019 จะอยู่ที่เกือบ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัญ ซึ่งในนั้น อัตราการแลกเปลี่ยนทางการค้าระหว่างเวียดนามกับรัสเซียคิดเป็นร้อยละ 92 รองลงมาคือคาซัคสถาน แต่ยังคงไม่สมกับศักยภาพความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับ 5 ประเทศสมาชิก EAEU    ดังนั้น  เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในเวลาที่จะถึง นาย ฟานฮวีแอง เจ้าหน้าที่กรมตลาดยุโรปและทวีปอเมริกาสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามได้เผยว่า

“ทั้งสองฝ่ายต้องพยายามยกเลิกกำแพงภาษีศุลกากร โดยเฉพาะ ร่วมมือกันเพื่อผลักดันการทำระเบียบราชการอิเล็กทรอนิกส์และระเบียบศุลกากรเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในปัญหาการรับรองแหล่งกำเนิดของสินค้า  ทั้งสองฝ่ายมุ่งสู่การเจรจาเพื่อยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการค้าและมาตรฐานเกี่ยวกับการรับรองสินค้าการเกษตรของกัน โดยเฉพาะ  การกักกันโรคในสัตว์และพืช  การปรับปรุงข้อกำหนดในบรรพเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดของสินค้า รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์จะผลักดันการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวและจัดการพบปะสังสรรค์กับสถานประกอบการเพื่อมีส่วนร่วมช่วยแก้ไขอุปสรรคของสถานประกอบการ”

ส่วนเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเวียดนาม Konstantin Vnukov ได้เผยว่า บรรดาสถานประกอบการของประเทศสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรปต้องเน้นการประชาสัมพันธ์ข้อมูลในเวียดนาม  ส่งเสริมการยกเลิกกำแพงภาษีศุลกากร  เช่น การมอบใบรับรองความปลอดภัยด้านอาหาร การจัดทำระบบใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์.