ภาพของการประชุม (Photo: quochoi.vn)

บรรดาผู้แทนได้ย้ำว่า สถานการณ์ภัยธรรมชาติและความต้องการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้น ข้อกำหนดบางข้อของกฎหมาย 2 ฉบับนี้ต้องได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง  นาย เหงวียนเลิมแถ่ง ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดหลางเซินได้แสดงความคิดเห็นว่า “ร่างกฎหมายดังกล่าวต้องได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะ ปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ   ในสภาวการณ์ที่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาตินับวันมีความผันผวนอย่างซับซ้อน เวียดนามเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  ดังนั้นต้องเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับมือภัยธรรมชาติทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน”

บรรดาผู้แทนยังเสนอว่า ร่างกฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าวต้องระบุเนื้อหาต่างๆ เช่น การยกระดับจิตสำนึกและความรับผิดชอบเกี่ยวกับการเป็นฝ่ายรุกในการป้องกันและรับมือกับภัยธรรมชาติ การดึงดูดนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศในด้านนี้ นาย เลกวางชี้ ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดเตี่ยนยางเห็นว่า “สำหรับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในงานด้านการป้องกันและรับมือกับภัยธรรมชาติ พวกเราอาจยืนยันได้ว่า งานด้านการป้องกันและรับมือภัยธรรมชาติเป็นหนึ่งในงานที่ยากและซับซ้อนสำหรับเวียดนามและบางประเทศ แต่อย่างไรก็ดี ยังมีหลายประเทศที่มีประสบการณ์ในด้านนี้อย่างเช่น ญี่ปุ่น สหรัฐและฟิลิปปินส์ ดังนั้น ผมขอเสนอให้คณะกรรมการจัดทำกฎหมายทำการวิจัยและเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับนโยบายของรัฐในการป้องกันและรับมือภัยธรรมชาติคือการเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในงานด้านการป้องกันและรับมือภัยธรรมชาติ”

 ในบ่ายวันเดียวกัน ด้วยเสียงสนับสนุนข้างมาก สภาแห่งชาติได้อนุมัติกฎหมายการแก้ไขและเพิ่มเติมข้อตกำหนดของกฎหมายโครงสร้างรัฐบาลและกฎหมายโครงสร้างทางการปกครองท้องถิ่น อนุมัติกฎหมายทหารบ้านฉบับแก้ไขและกฎหมายตรวจสอบการเข้าออกเมืองของพลเมืองเวียดนาม.