เจ้าหน้าที่สาธารณสุขส่งผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาล (Photo: AFP/TTXVN)

ตามข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก จนถึงวันที่ 19 มีนาคม จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด –19 ในยุโรปอยู่ที่กว่า 85,000 ราย และผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 ราย ซึ่งสูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศจีนที่มี  80,900 รายและผู้เสียชีวิตกว่า 3,200 ราย โดยอิตาลีเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 2,978 ราย ส่วนในวันที่ 18 มีนาคม ประเทศอิตาลี มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 475 ราย ทำให้กลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด -19 สูงที่สุดในโลกและสูงกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศจีนในจุดสูงสุดของการแพร่ระบาด

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด -19 ในยุโป จะลดลง ส่วนประเทศต่างๆในยุโรปกำลังพยายามควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ ประเทศต่างๆในยุโรปได้สั่งปิดโรงเรียน โรงภาพยนตร์ บาร์ ร้านอาหาร เป็นต้น ส่วนบริษัทต่างๆได้ขอให้พนักงานทำงานที่บ้าน

นาง อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้เรียกร้องให้ประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาด โดยถือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่ประเทศต้องเผชิญนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2  เยอรมนีจะทำการตรวจสอบการเข้าเมืองสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ออสเตรีย เดนมาร์ก สวิสเซอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กทั้งทางอากาศ ทางทะเลและทางบก

  นาย บอริส จอห์สัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้เผยว่า ได้สั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมและมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบในกรุงลอนดอนในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในอังกฤษได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 อยู่ที่ 2,626 ราย

  ส่วนนาย Marcelo Rebelo de Sousa  ประธานาธิบดีโปรตุเกสได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับประเทศเป็นเวลา 15 วันหลังจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศในวันที่ 18 มีนาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 อยู่ที่ 642 ราย

  สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปนทรงเรียกร้องให้ประชาชนมีความสามัคคีในสภาวการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อโรคโควิด -19 เกือบ 14,000 รายและผู้เสียชีวิต 598 ราย

 นายกรัฐมนตรีอิตาลีกำลังพิจารณาการขยายเวลาการปิดประเทศออกไป ห้ามจัดกิจกรรมกลางแจ้ง รวมทั้ง การเดินทาง

  ที่ทวีปอเมริกา สหรัฐและแคนาดาได้ประกาศปิดชายแดน ส่วนออสเตรเลียได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและปิดชายแดนของรัฐแทสมาเนีย  ซึ่งเป็นรัฐที่มีนโยบายการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวด.