จนถึงขณะนี้ เวียดนามมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,075,094  รายและมีผู้ที่ได้รับการรักษาหายสะสม 883,564  ราย

ส่วนตามรายงานของเว็บไซต์ worldometer.info จนถึงบ่ายวันที่ 19 พฤศจิกายน  ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สะสมกว่า 256.2 ล้านราย และผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 5.1 ล้านราย สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการแพร่ระบาดโดยมีผู้เสียชีวิตเกือบ 7 แสน 9 หมื่นรายจากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 48.3 ล้านราย รองลงมาคืออินเดียและบราซิล โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีกกว่า 5 แสน 9 หมื่นรายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 7 พัน 5 ร้อยราย โดยสหรัฐเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากที่สุด รองลงมาคือเยอรมนีและอังกฤษ ส่วนรัสเซียมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุด คือ 1,200 ราย

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในเยอรมนีมีความซับซ้อนมากขึ้นจนทำให้รัฐบาลเยอรมนีต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติมาตรการรับมือการแพร่ระบาด เช่น ผู้ที่มาเยี่ยมและเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุต้องทำการตรวจหาเชื้อทุกวัน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มต้องทำการตรวจหาเชื้อ3 ครั้งต่อสัปดาห์

ส่วนรัฐบาลสาธารณรัฐเช็กได้ประกาศว่า นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มและผู้ที่หายป่วยจากโรคโควิด -19 ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาจะได้รับอนุญาตให้เข้าบาร์ ร้านอาหาร โรงแรมและใช้การบริการต่างๆ ในขณะที่ประเทศกรีซได้เพิ่มมาตรการที่มเข้มงวดต่อผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

ที่สหรัฐ  เด็กที่มีอายุ 5- 11ขวบอย่างน้อย 2.6 ล้านคนจากจำนวน 28 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้ว.