นาย บันคีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม (Internet)

(VOVworld) – ในการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับอำนาจกฏหมายในกรอบการประชุมครั้งที่ 67 ของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่มีขึ้นเช้าวันที่ 25 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น บรรดาผู้นำของประเทศต่างๆในโลกได้ให้คำมั่นในการยืนหยัดปฏิบัติตามกฏหมายซึ่งถือเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานเพื่อป้องกันสงคราม ผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจและพัฒนาอย่างยั่งยืน ในการกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม นาย บันคีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกใช้อำนาจกฏหมายอย่างเสมอภาคทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมมาตรฐานอำนาจสูงสุดของกฏหมายในกระบวนการออกมติอนุมัติปัญหาต่างๆ “ผมหวังว่า พวกเราจะสามารถร่างวิธีการเข้าถึงใหม่ที่เข้มงวดในการส่งเสริมอำนาจกฏหมายและปฏิบัติความเป็นธรรมเพื่อรักษาสันติภาพ การพัฒนาและสิทธิของมนุษย์โดยการเสริมสร้างอำนาจกฏหมายจะนำผลประโยชน์มาสู่ทุกประเทศและบุคคล” ตามความเห็นของนาย บันคีมุน ในการส่งเสริมอำนาจของกฏหมายในระดับสากล ประเทศต่างๆต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือ ICJ ซึ่งเป็นสำนักงานตุลาการของสหประชาชาติที่ได้รับการจัดตั้งเมื่อปี 1945 เพื่อแก้ไขการพิพาททางนิตินัยระหว่างประเทศสมาชิก สำหรับปัญหานี้ นาย  ปีเตอร์ ทอมคา ประธาน ICJ ได้ย้ำว่า “การแก้ไขการพิพาทในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมักจะมีส่วนร่วมลดความตึงเครียดระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกรณีพิพาทด้านอธิปไตยหรือเขตทะเล” นาย ปีเตอร์ ทอมคา ยังเผยต่อไปว่า ขณะนี้ มี 1 ใน 3 จากทั้งหมด 193 ประเทศสมาชิกของสหประชาชาซึ่งในนั้นมีสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพียงประเทศเดียวที่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยที่มีผลบังคับใช้ของ ICJ ซึ่งในแถลงการณ์ที่ได้รับการอนุมัติในการประชุม บรรดาผู้นำและรัฐมนตรีของ 80 ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมได้ยืนยันอีกครั้งถึงหลักการเกี่ยวกับความเสมอภาคด้านอธิปไตยของทุกประเทศ ไม่เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของกันและให้ความเคารพสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศต่างๆต้องใช้ความอดกลั้นในการใช้มาตรการด้านเศรษฐกิจ การเงินและการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียวที่จะสร้างอุปสรรค์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะต่อประเทศที่กำลังพัฒนา./.