ภาพพื้นเมืองดงโห่ ภาพพื้นเมืองห่างจ๊ง

จุดเด่นของงานนี้คือการจัดโซนตามหัวข้อต่างๆเกี่ยวกับกิจกรรมหลักในวันตรุษเต๊ตเช่น หิ้งบูชาเซ่นไหว้บรรพชน ประเพณีการแขวนภาพพื้นเมืองดงโห่ ห่างจ๊ง รวมทั้งป้ายเขียนคำกลอนคู่วันตรุษเต๊ต การขอตัวอักษรมงคลในวันขึ้นปีใหม่ เป็นต้น ซึ่งได้สร้างภาพความทรงจำที่มีความหมายให้แก่ผู้คน คุณหวูถิทูฮ่า และนายเหงวียนฮวีเถื่อง ผู้ที่มาชมงานเผยว่า

“การจัดแสดงเกี่ยวกับบรรยากาศของตรุษเต๊ตแบบเดิมนั้นทำให้คนดูหวนคิดถึงช่วงเวลาของหลายสิบปีก่อน ซึ่งคนรุ่นใหม่คงไม่ค่อยรู้จักมากนัก อย่างภาพพื้นเมืองดงโห่ในวันตรุษเต๊ตก็เห็นแต่ทางทีวีหรือสื่อออนไลน์ รวมถึงกระปุกออมสินหมูดินก็เป็นของที่คุ้นเคยกับคนอายุสูงๆเพราะเป็นสิ่งที่เมื่อก่อนพ่อแม่มักจะซื้อให้ลูกเก็บไว้ใช้ประหยัดเงิน เป็นต้น”

“มีภาพหลายอย่างที่ชวนให้เราคิดถึงอดีตและยุครัฐอุปถัมภ์ที่พวกเราเคยผ่านมาแล้ว ประทัด จุ๊กแบก เหล้ามะนาว แบ๊งจึงเต๊ต คือของที่เรามักจะซื้อในช่วงตรุษเต๊ต”

งานจัดแสดงประเพณีวันตรุษเต๊ตไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้สูงอายุเข้าชมเท่านั้นหากยังสร้างความสนใจให้คนรุ่นใหม่มาศึกษาประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมของประชาชาติอีกด้วย คุณเลแองทือ นักเรียนมัธยมปลายในฮานอยเผยว่า “เราได้เห็นและสัมผัสกับประเพณีการบูชาบรรพชนในช่วงตรุษเต๊ต เช่นวันเซ่นไหว้เทพแห่งเตาที่23เดือน12จันทรคติ การเซ่นไหว้เทวดาฟ้าดินในเสี้ยวนาทีส่งท้ายป่เก่ารับปีใหม่ ประเพณีไปอวยพรปีใหม่กันใน3วันแรกของตรุษเต๊ต การจัดถาดอาหารเซ่นไหว้ในมื้ออาหารแรกของปีใหม่ ซึ่งทุกอย่างมีความหมายมากทำให้เราคิดและจดจำคุณค่าประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของชาติ”

ในกรอบของงาน ถึงวันที่14มกราคมหรือตรงกับวันที่23เดือน12จันทรคติ จะมีการจัดแสดงบรรยากาศแห่งวัฒนธรรมของพระราชวังในช่วงตรุษเต๊ตเพื่อแนะนำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับงานเทศกาลตรุษเต๊ตที่จัดในพระราชวัง โดยเฉพาะพิธี ชิ้งด๊าน ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดเพื่อขอพรให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง ประชาชาติมั่นคงถาวร.