สหประชาชาติรับรองปาเลสไตน์ให้มีสถานะเป็นรัฐผู้สังเกตุการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิก
ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้ลงมติรับรองปาเลสไตน์ให้มีสถานะรัฐผู้สังเกตุการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิกและรับรองรัฐปาเลสไตน์ที่มีเส้นแบ่งพรมแดนปี๑๙๖๗
ในการลงมติเช้าวันที่๓๐พฤศจิกายน ตามเวลาเวียดนาม ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้ลงมติรับรองปาเลสไตน์ให้มีสถานะรัฐผู้สังเกตุการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิกและรับรองรัฐปาเลสไตน์ที่มีเส้นแบ่งพรมแดนปี๑๙๖๗ ด้วยเสียงสนับสนุน๑๓๗เสียง เสียงคัดค้าน๙เสียงและไม่ออกเสียง๔๑เสียง นี่ถือเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของปาเลสไตน์ ภายหลังการประกาศผลการลงมติ ชาวปาเลสไตน์นับพันคนในเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซ่า ได้เดินไปตามท้องถนนเพื่อแสดงความยินดีต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางการปาเลสไตน์ได้อนุญาติให้นักเรียนและข้าราชการหยุดเป็นเวลาครึ่งวันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆดังกล่าว ส่วนประเทศต่างๆได้แสดงความยินดีต่อผลการลงมติดังกล่าว ในการกล่าวปราศรัยต่อสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ นาย Ahmet Davutoglu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกีได้เผยว่า การยกระดับสถานะให้แก่ปาเลสไตน์ในสหประชาชาติจะมีส่วนร่วมผลักดันการเจรจาอย่างสันติระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ส่วนนาย บันคีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เรียกร้องให้ปาเลสไตน์ และอิสราเอลพยายามร่วมกันสร้างสันติภาพ แม้จะมีความเห็นชอบจากประชาคมระหว่างประเทศ แต่สหรัฐและอิสราเอลออกมาตำหนิการลงมติดังกล่าว โดยสหรัฐได้เผยว่า นี่เป็นกระทำที่ไม่เหมาะสมและอาจจะส่งผลในทางกลับกันโดยอาจขัดขวางเส้นทางสันติภาพในตะวันออกกลาง ในขณะเดียวกัน นาย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้เรียกบทปราศรัยของนาย มะห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ที่ว่าก่อนการลงมติว่าเป็นการสร้างความเสื่อมเสียเกียรติยศและต่อต้านอิสราเอล ภายหลังการลงมติ นาย เนทันยาฮู ได้เผยว่า การตัดสินใจดังกล่าวของสหประชาชาติเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์และอิสราเอลจะทำการตอบโต้ ./.