สหภาพยุโรป เยอรมนีและฝรั่งเศสระงับความช่วยเหลือทางการเงินและความร่วมมือกับไนเจอร์
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เยอรมนีได้ประกาศระงับความช่วยเหลือทางการเงินและความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับไนเจอร์หลังจากเกิดเหตุรัฐประหารโค่นล้มประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด บาซูม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเตือนว่า ทางการเบอร์ลินอาจใช้มาตรการเพิ่มเติม
นายพล Abdorahmane Tiani (ขวา) ได้รับการประกาศโดยฝ่ายรัฐประหารให้เป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่ของไนเจอร์ (Reuters) |
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีเผยว่า ขณะนี้ ไม่มีแผนอพยพพลเมืองหรือทหารในไนเจอร์ และกำลังเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในไนเจอร์ กระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของเยอรมนีได้ตัดสินใจยุติ “ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาทวิภาคี” กับไนเจอร์
ในวันเดียวกัน สหภาพยุโรปหรือ EU และฝรั่งเศสได้ตัดสินใจยุติความช่วยเหลือทางการเงินและความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไนเจอร์ อียูเผยว่า ผู้ก่อรัฐประหารต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่นักการทูตและสถานทูตหลังจากผู้ประท้วงที่สนับสนุนการทำรัฐประหารชุมนุมหน้าสถานทูตฝรั่งเศสในไนเจอร์ ส่วนฝรั่งเศสได้ออกแถลงการณ์ประณามการทำรัฐประหาร โดยเรียกร้องให้ฟื้นฟูรัฐธรรมนูญในไนเจอร์ และคืนตำแหน่งประธานธิบดีให้แก่นาย โมฮาเหม็ด บาซูม
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม รัฐบาลทหารก่อเหตุรัฐประหารในไนเจอร์ได้ทำการจับกุมตัวสมาชิกรัฐบาล สมาชิกรัฐสภา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของรัฐบาลของประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด บาซูม ฝ่ายทำรัฐประหารได้ทำการปราบปรามทางการเมืองหลังจากที่นาย Mahamat Idriss Déby ประธานาธิบดีสาธารณรัฐชาดเดินทางไปถึงประเทศไนเจอร์เพื่อทำการเจรจากับฝ่ายทำรัฐประหารเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยเมื่อคืนวันที่ 30 กรกฎาคม ผู้นำสาธารณรัฐชาดได้เข้าพบประธานาธิบดีไนเจอร์ซึ่งถูกกักบริเวณในทำเนียบประธานาธิบดีในเมืองหลวงนีอาเม หลังจากนั้นได้พบปะกับนายพล Abdourahamane Tchiani ประธานสภาแห่งชาติเพื่อการปกป้องปิตุภูมิที่ก่อตั้งขึ้นโดยฝ่ายที่ทำรัฐประหาร.