สื่อญี่ปุ่นลงข่าวการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ซูงะ โยชิฮิเดะ

(VOVWORLD) - ในระหว่างวันที่ 19-20 ตุลาคม สื่อญี่ปุ่นได้รายงานข่าวและมีบทความเกี่ยวกับการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรี ซูงะ โยชิฮิเดะ อย่างต่อเนื่อง

สื่อญี่ปุ่นลงข่าวการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ซูงะ โยชิฮิเดะ - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเวียดนามและภริยากับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและภริยา (Photo VNplus) 

สำนักข่าวเกียวโดฉบับวันที่ 19 ตุลาคมได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “ผู้นำญี่ปุ่นและเวียดนามยืนยันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ” โดยเผยว่า ในการเจรจา ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี ซูงะ โยชิฮิเดะและนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊กได้ยืนยันถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการเจรจา นายกรัฐมนตรี ซูงะ โยชิฮิเดะ ได้ย้ำว่า “เวียดนามเป็นปัจจัยสำคัญในความพยายามสร้างสรรค์ภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย – แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง” พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า ญี่ปุ่นจะ “มีส่วนร่วมต่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้”

ในขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ NHK ได้จัดทำสกู๊ปในหัวข้อ “ญี่ปุ่นและเวียดนามยืนยันความร่วมมือด้านความมั่นคง” โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้กล่าวย้ำถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างสรรค์ภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย – แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง รวมถึงขยายความร่วมมือด้านความมั่นคง ในการเจรจา ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและปัญหาต่างๆในภูมิภาค สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ผู้นำทั้งสองท่านได้ยืนยันถึงความสำคัญของการแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีแทนการใช้กำลังเพื่อรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและการเดินเรืออย่างเสรี

ส่วนในบทความที่พาดหัวว่า “นายกรัฐมนตรี ซูงะให้คำมั่นสนับสนุนอาเซียนจัดทำหลักการให้ความเคารพกฎหมาย” สถานีโทรทัศน์ NHK ได้อ้างคำยืนยันของนายกรัฐมนตรี ซูงะ ว่า ญี่ปุ่นจะผลักดันการสนับสนุนบรรดาประเทศอาเซียนเพื่อกำหนดหลักการให้ความเคารพกฎหมายในภูมิภาคนี้

ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ Nikkei Asia ฉบับวันที่ 20 ตุลาคมได้ลงข่าวนายกรัฐมนตรีซูงะให้คำมั่นสนับสนุนบรรดาสถานประกอบการญี่ปุ่นเพิ่มความหลากหลายของห่วงโซอุปทานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การที่นายกรัฐมนตรีซูงะ เลือกเยือนเวียดนามและอินโดนีเซียในการเยือนต่างประเทศครั้งแรกนี้ได้แสดงให้เห็นถึงประเด็นที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด