ในบทวิเคราะห์บนเว็บไซต์ orientaliarossica.com ดร. Alexander Korolev จากโรงเรียนเศรษฐศาสตร์ชั้นสูงของรัสเซีย HSE ได้ให้ข้อสังเกตว่า บทสุนทรพจน์ของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊กมีความคิดสร้างสรรค์และครอบคลุมปัญหาที่ร้อนระอุต่างๆ นอกจากปัญหาที่เร่งด่วนเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก บทสุนทรพจน์ยังย้ำถึงประเด็นสำคัญอื่นๆ เช่น การสนับสนุนคิวบา โดยเฉพาะประชาชนคิวบา พร้อมทั้งแสดงความปรารถนาของเวียดนามเกี่ยวกับการต่อต้านลัทธิคุ้มครอง คำสั่งคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียวและการปฎิบัตินโยบายการต่างประเทศที่ “บังคับ” จุดยืนของเวียดนามสอดคล้องกับนโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจของประเทศในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา นั่นคือนโยบาย "หลายรูปแบบหลายฝ่าย" การขยายความร่วมมือกับหุ้นส่วนและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผลักดันการผลิตภายในประเทศและเพิ่มแหล่งจัดสรรสำหรับการส่งออก

เวียดนามได้แสดงให้เห็นว่า เป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบ สนับสนุนการใช้สันติวิธีเพื่อแก้ไขการพิพาทและอาศัยยุทธศาสตร์ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในทัศนะเกี่ยวกับความมีเสถียรภาพในอัฟกานิสถาน ปัจจุบันนี้ กลุ่มหัวรุนแรงจากตะวันออกกลางและเอเชียกลางกำลังมุ่งหน้าไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเมียนมาร์

ส่วนในเนื้อหาเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของอาเซียนในการกำหนดโครงสร้างเศรษฐกิจและความมั่นคงของภูมิภาค ถึงแม้เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนช้ากว่าหลายประเทศในภูมิภาค แต่ก็ได้มีส่วนร่วมในเชิงบวกเป็นอย่างมากเพื่อช่วยให้อาเซียนเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สร้างทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในสภาวการณ์ที่สหรัฐและจีนนับวันเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาคนี้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำสหพันธรัฐรัสเซีย.