นาย คิมจองอึน ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (KCNA)

การพบปะมีขึ้นภายหลัง 2 เดือนหลังจากที่การเจรจาระหว่างนาย คิมจองอึน กับนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ณ กรุงฮานอยไม่สามารถบรรลุผลงานใดๆ

สำหรับนาย คิมจองอึน ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นกับมอสโคว์หลังจากที่การพบปะกับนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ณ กรุงฮานอยไม่บรรลุผลงานใดๆ ช่วยให้เปียงยางมีพลังในการต่อรองมากขึ้นในการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์กับสหรัฐที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ นาย คิมจองอึน ยังมีความประสงค์ว่า มอสโคว์จะมีเสียงพูดเพื่อให้สหประชาชาติผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร ส่วนสำหรับรัสเซีย ในขณะที่ความสัมพันธ์รัสเซีย-สหรัฐยังคงมีความตึงเครียดในหลายปัญหาทั้งวิกฤตยูเครน สงครามในซีเรียและข้อกล่าวหาการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2016 ดูเหมือนว่า ปัญหาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีคือไม่กี่หัวข้อที่รัสเซียและสหรัฐมีทัศนะตรงกัน

รัสเซียมีบทบาทสำคัญและต่อเนื่องในการใช้กระบวนการทางการทูตเพื่อสร้างสันติภาพ ซึ่งรวมถึงปัญหาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี รัสเซียเคยเสนอแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของทางการเปียงยางต่อสหรัฐ ดังนั้น การประชุมสุดยอดกับผู้นำ คิมจองอึน คือสาส์นที่มอสโคว์อยากส่งถึงวังเครมลินว่า ควรมีบทบาทในทุกการไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และขยายอิทธิพลของรัสเซียในเอเชียตะวันออก

ไม่ว่าผลการพบปะจะออกมาเป็นเช่นไร แต่นี่ก็ถือสัญญาณที่น่ายินดีจากทางการเปียงยางในขณะที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่า การประชุมสุดยอดสหรัฐ-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีครั้งที่ 3 จะมีขึ้นหรือไม่.