ขณะนี้หน่วยกู้ภัยของลาวกำลังเร่งปฏิบัติการค้นหาผู้เคราะห์ร้าย(Vientiane News)

(VOVworld)- อุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินลาวตกกลางแม่น้ำโขงเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 16 ตุลาคม หลังจากที่เที่ยวบินนี้ออกจากสนามบิน วัดไต นคร เวียงจันทน์ มุ่งหน้าไปยังเมือง ปากเซ แขวงจำปาสักทางภาคใต้ส่งผลให้ผู้โดยสาร นักบินและแอร์โฮสเตสเสียชีวิต 49 คน รวมทั้งชาวเวียดนาม 3 คน หนังสือพิมพ์  
เกี่ยวกับเครื่องบินตกในประเทศลาว วันที่ 17 ตุลาคม เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เริ่มทำการค้นหาผู้ประสบภัยจากเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว ส่วนสำนักข่าว KPL ของลาวได้รายงานว่า ผู้โดยสารทั้งหมดบนเครื่องบินอาจเสียชีวิตแล้ว
สถานที่เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกอยู่ห่างจากสนามบิน ปากเซ ในแขวง จำปาสักซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางภาคใต้ของลาวประมาณ 8 กิโลเมตรซึ่งผู้โดยสารบนเครื่องบินลำดังกล่าวมาจาก 10 ประเทศและดินแดนได้แก่ ลาว ไทย ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย จีน ไต้หวัน สหรัฐ มาเลเซีย แคนาดาและเวียดนาม
ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ Vientiane Times นาย ยากัว โลปังกัว อธิบดีกรมการบินพลเรือนลาวได้เผยว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายอาจได้รับผลกระทบจากพายุ นารีอาจเป็นสาเหตุทำให้เครืองบินตกในครั้งนี้ ในวันเดียวกัน สายการบินลาวได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้ประสบภัย
ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำกรุงเวียงจันทน์ได้อ้างคำกล่าวของนาย บุ่ยวันตุ๋ย ดูแลงานด้านกงสุลสังกัดกงสุลใหญ่เวียดนามประจำแขวงจำปาสักว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีชาวเวียดนามที่อาศัยในตำบลปากเซ 3 คนซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกันได้แก่ นาย เลเหว่ นาง เวืองถิ่เงินที่ถือสัญชาติเวียดนามและลูกสาว เลถิ่จิ่ง ที่ถือสัญชาติลาวและนาง ด่าวถิ่เหลียว ชาวเวียดนามที่เคยอาศัยในเมืองปากเซ
กงสุลใหญ่เวียดนามประจำลาวได้ประสานกับสมาคมชาวเวียดนามในแขวง จำปาสักเดินทางไปเยี่ยมเยือนครอบครัวชาวเวียดนามที่มีญาติประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ ส่วนบรรดาผู้นำประเทศเวียดนามก็ได้ส่งโทรเลขแสดงความเสียใจถึงบรรดาผู้นำและประชาชนลาวเช่นกัน./.