อียู-เวียดนามมั่นใจในอนาคตที่สดใส
(VOVworld)-ประธานคณะกรรมการยุโรปหรืออีซี โฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ จะเดินทางมาเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่25-26สิงหาคม
ประธานคณะกรรมการยุโรปหรืออีซี โฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ จะเดินทางมาเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่25-26สิงหาคม
|
(VOVworld)-ประธานคณะกรรมการยุโรปหรืออีซี โฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ จะเดินทางมาเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่25-26สิงหาคม ซึ่งเป็นการเยือนเวียดนามครั้งที่2ในฐานะประธานอีซีเพื่อมุ่งผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือที่กำลังพัฒนาอย่างดีงามระหว่างสองฝ่ายเพื่อเอื้อให้แก่การเปิดโอกาสแห่งความร่วมมือใหม่ในหลายด้าน ในการให้สัมภาษณ์นักข่าวสำนักข่าวเวียดนามประจำเบลเยี่ยม นาย บาร์โรโซได้เผยว่า เป้าหมายของการเยือนเวียดนามครั้งนี้คือเพื่อประเมินผลความร่วมมือที่ได้บรรลุและเริ่มผลักดันกระบวนการร่วมมือใหม่ในด้านที่เป็นรูปธรรมและสร้างความคืบหน้าใหม่ให้แก่การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเอฟทีเอที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี2012 ซึ่งหากประสบความสำเร็จเอฟทีเอจะเปิดโอกาสให้แก่สถานประกอบการต่างๆของเวียดนาม ปัจจุบันอียูคือตลาดนำเข้าสินค้ารายใหญ่อันดับ1ของเวียดนามและอยู่อันดับสองด้านหุ้นส่วนการค้าทวิภาคี มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ20ต่อปีและได้อยู่ที่27พันล้านยูโรเมื่อปี2013 นอกจากนั้นอียูยังเป็นนักอุปถัมภ์ในรูปให้เปล่ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยในช่วงปี2014-2020 อีซีได้ให้คำมั่นช่วยเหลือในรูปให้เปล่ามูลค่า400ล้านยูโรให้แก่เวียดนามเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งสูงกว่า 100ล้านยูโรเมื่อเทียบกับจำนวนเงินอุปถัมภ์ช่วงปี2007-2013
ในด้านการเมือง นายบาร์โรโซได้ชื่นชมบทบาทของเวียดนามในฐานะผู้ประสานความสัมพันธ์ระหว่างอียูและอาเซียนโดยเห็นว่า นับตั้งแต่เวียดนามได้เปิดประเทศผ่านการปฏิบัติภารกิจ โด๋ยเม้ยและหลังจากได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก เวียดนามได้มีพัฒนาการที่ก้าวไกลทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น เงินเฟ้อและอัตราการเเลกเปลี่ยนอยู่ในภาวะมีเสถียรภาพซึ่งนับเป็นผลงานที่น่ายินดี แต่ในขณะเดียวกันความสำเร็จเบื้องต้นนี้ก็ได้สร้างความท้าทายใหม่ให้แก่เวียดนามและเวียดนามต้องปฏิบัติคำมั่นที่มั่นคงตามแนวทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัยเพื่อมุ่งสู่การสร้างระบบเศรษฐกิจเชิงตลาด
เกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก นายบาร์โรโซได้ยืนยันว่า อียูให้ความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค ดังนั้นอียูจึงสนับสนุนให้แสวงหามาตรการที่สันติผ่านการเจรจาที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะต้องค้ำประกันความปลอดภัยและการเดินเรืออย่างเสรีนายบาร์โรโซีเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์เวียดนาม-อียูจะพัฒนาดีงามต่อไปและข้อตกลงเอฟทีเอจะได้รับการลงนามโดยเร็ว./.