ภาพการประชุม (VNA)

ในการนี้ ผู้แทนสภาแห่งชาติหลายคนได้แสดงความคิดเห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบในหลายด้าน แต่ถึงกระนั้นในไตรมาสที่ 3 และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจก็ยังคงมีจุดเด่นต่างๆ นาย หว่างวันเกื่อง ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยกล่าวว่า “หนึ่งคือ การเกษตรเป็นด้านเดียวที่ยังมีการขยายตัวเป็นบวกในไตรมาสที่ 3 ดังนั้นเราควรให้ความสนใจมากขึ้นต่อการพัฒนาการเกษตรในอนาคต จริงๆแล้ว การเกษตรของเวียดนามมีจุดแข็งหลายอย่าง เราควรมีรูปแบบใหม่ในการลงทุนการเกษตรในอนาคต สองคือ ส่วนร่วมของหน่วยงานการส่งออก ในตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกของเวียดนามยังคงมีการขยายตัวกว่าร้อยละ 10 สำหรับเศรษฐกิจที่เปิดกว้างเหมือนเวียดนาม จำเป็นต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการส่งออก ส่วนในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจ เราควรให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อหน่วยงานและสินค้าที่เป็นจุดแข็งในการส่งออก”

ผู้แทนสภาแห่งชาติยังประเมินว่า ในการรับมือการแพร่ระบาดในเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้บางจังหวัดยังปฏิบัติได้ไม่ดีมากนักแต่สิ่งที่สำคัญคือ เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในด้านการฉีดวัคซีน โดยตั้งแต่เดือนเมษายนถึงปัจจุบัน เวียดนามสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ได้เกือบ 70 ล้านโดส โดยเฉพาะการประกาศมติที่ 128 เพื่อปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในงานด้านการป้องกันและความคุมการแพร่ระบาด ประกาศนโยบายชะลอหรือเลื่อนเวลาการเก็บภาษีเพื่อช่วยแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการและแรงงาน เป็นต้น.