เปิดการประชุมผู้นำเอเปกครั้งที่ 23
(VOVworld) – ที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์ร่วมของบรรรดาผู้นำเอเปกเกี่ยวกับ “การสร้างเศรษฐกิจที่มีส่วนร่วม สร้างโลกที่ดีขึ้น” และ “แถลงการณ์เกี่ยวกับการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีและการประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 10”
บรรดาผู้นำของ 21 เศรษฐกิจในการประชุมเอเปก2015 (vietnamplus) |
(VOVworld) – การประชุมผู้นำฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกครั้งที่ 23 ได้เปิดขึ้นในเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ นาย เบนิกโน อากิโน ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้เป็นประธานในการต้อนรับผู้นำของ 20 เศรษฐกิจสมาชิก คณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามนำโดยท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศได้เข้าร่วมการประชุม ในการกล่าวปราศรัยในพิธี นาย เบนิกโน อากิโน ได้ย้ำถึงความหมายของการประชุมภายใต้หัวข้อ “การสร้างเศรษฐกิจที่มีส่วนร่วม การสร้างโลกที่ดีขึ้น” พร้อมทั้งยืนยันว่า ในสภาวการณ์โลกใหม่ เอเปกยังคงเป็นกลไกร่วมมือเศรษฐกิจชั้นนำในภูมิภาค ที่มีความร่วมมือที่กว้างลึกมากขึ้นและมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งเพื่อค้ำประกันการขยายตัวที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งในระดับภูมิภาคและโลก
หลังพิธีเปิด บรรดาผู้นำเอเปกได้เข้าร่วมการประชุมครบองค์รอบแรกภายใต้หัวข้อ “การขยายตัวที่มีส่วนร่วมผ่านการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ”โดยยืนยันถึงคำมั่นที่จะเสร็จสิ้นทุกเป้าหมายโบกอร์ภายในปี 2020 มุ่งสู่การสร้างสรรค์เขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกหรือเอฟทีเอพีพีให้เป็นรูปธรรม มีส่วนร่วมเสริมสร้างสถานะเอเชียแปซิฟิกให้เป็นพลังขับเคลื่อนของการขยายตัวและการเชื่อมโยงในภูมิภาคและโลก เศรษฐกิจสมาชิกเอเปกได้ยืนยันถึงการสนับสนุนการเสริมสร้างระบบการค้าพหุภาคีต่อไป อีกทั้งเห็นพ้องที่จะอนุมัติมาตรการที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการขยายตัวที่มีคุณภาพ ความร่วมมือด้านการบริการ ปฏิรูปโครงสร้าง ผลักดันการเข้าร่วมของสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋วในตลาดโลกเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัว
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซางได้ประเมินว่า สถานการณ์ในภูมิภาคกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ชื่นชมความพยายามของเอเปก 2015 ในการผลักดันการขยายตัวที่มีคุณภาพ อีกทั้งย้ำถึงศักยภาพที่เข้มแข็งของกระบวนการเชื่อมโยงในภูมิภาคและแสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจต่างๆต้องผลักดันการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจเพื่อเป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อความร่วมมือแก้ปัญหาความยากจน ลดช่องว่างการพัฒนา ร่วมมือเพื่อลดภัยธรรมชาติ รักษาความมั่นคงด้านอาหาร การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนและการท่องเที่ยวแห่งสีเขียว ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง ได้เสนอว่า เพื่อค้ำประกันความเชื่อมโยงในภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องประสานความพยายามเชื่อมโยงกับการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุม 2030 เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งเอเปกต้องขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและให้การช่วยเหลือการยกระดับทักษะความสามารถของประเทศสมาชิกที่กำลังพัฒนา โดยเฉพาะในปัญหาเศรษฐกิจและการค้าใหม่ๆ ท่าน เจืองเติ๊นซางได้ย้ำว่า ด้วยศักยภาพเกี่ยวกับเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เศรษฐกิจสมาชิกและผู้ประกอบการเอเปกต้องเข้าร่วมและให้การช่วยเหลือโครงการเชื่อมโยงอนุภูมิภาคและภูมิภาค รวมทั้งอาเซียนและแม่โขง
ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง (reuters)
|
ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง ได้แสดงความเห็นว่า “เพื่อส่งเสริมบทบาทของเอเปกในการเป็นพลังขับเคลื่อนการเชื่อมโยงของภูมิภาค พวกเราต้องผลักดันการเข้าร่วม ให้การช่วยเหลือความพยายามอนุภูมิภาคและภูมิภาคของเศรษฐกิจสมาชิก รวมทั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง พร้อมทั้งผลักดันส่วนร่วมและเชิดชูสดุดีบทบาทของเอเปกในความพยายามเสริมสร้างระบบการค้าพหุภาคีโดยก่อนอื่นคือการค้ำประกันความสำเร็จของการประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 10 สมาชิกเอเปกต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆมากขึ้นต่อการปรับปรุงโครงสร้างอย่างพร้อมเพรียงของสามเสาหลักคือสร้างตลาดที่เปิดกว้างในการแข่งขันและโปร่งใส ผลักดันการเข้าร่วมอย่างมีประสิทธิภาพของทุกภาคส่วนในสังคมในตลาดและค้ำประกันระบบสวัสดิการสังคมอย่างยั่งยืน เวียดนามเห็นพ้องในการอนุมัติ “ระเบียบวาระการประชุมเอเปกใหม่เกี่ยวกับการปฏิรูปโครงสร้าง””
ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซางได้ย้ำถึงส่วนร่วมของเวียดนามในการขยายความร่วมมือเอเปกและเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจในภูมิภาค พร้อมทั้งยืนยันว่า ด้วยกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกที่กว้างลึกและสมบูรณ์ ภายหลัง 30 ปีของการเปลี่ยนแปลงใหม่ เวียดนามสามารถถอดบทเรียนคือ ถ้าอยากมีการขยายตัวต้องผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจ ถ้าอยากมีการขยายตัวอย่างยั่งยืน ต้องปฏิรูปอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะกลไกเศรษฐกิจ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนในการมุ่งสู่การเป็นเจ้าภาพปีเอเปก 2017 เวียดนามจะมีส่วนร่วมกับเศรษฐกิจสมาชิกเพื่อผลักดันการเชื่อมโยงเพื่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เจริญรุ่งเรือง
ในการกล่าวปราศรัยในการหารือครบองค์รอบที่สองภายใต้หัวข้อ “ผลักดันการขยายตัวที่มีส่วนร่วมผ่านประชาคมที่พึ่งพาตนเองและยั่งยืน” ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซางได้เสนอให้สมาชิกเอเปกให้ความสำคัญต่อความพยายามในการลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติต่อชุมชน ประสานความพยายามในการรักษาความมั่นคงด้านอาหารกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ บริหารและใช้แหล่งทรัพยากรและแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน ผลักดันการเกษตรที่ยั่งยืนผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ พร้อมทั้งย้ำว่า เอเปกต้องผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคและโลกในการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุม 2030 เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ข้อตกลงฉบับใหม่ของโลกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ของประชามติโลก ตลอดจนความพยายามร่วมกันของเอเปก ในการหารือนี้ ผู้แทนระหว่างประเทศได้ชื่นชมข้อคิดริเริ่มของเวียดนามในการจัดการสัมมนาเอเปกครั้งแรกเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงจากธรรมชาติต่อชุมชน
ในการปิดการประชุมเอเปกครั้งที่ 23 ในบ่ายวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์ร่วมของบรรรดาผู้นำเอเปกเกี่ยวกับ “การสร้างเศรษฐกิจที่มีส่วนร่วม สร้างโลกที่ดีขึ้น” และ “แถลงการณ์เกี่ยวกับการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีและการประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 10” พร้อมกับเอกสาร 2 ฉบับคือ “ยุทธศาสตร์เอเปกเกี่ยวกับการขยายตัวที่มีคุณภาพ” และ “กรอบความร่วมมือเอเปกเกี่ยวกับการบริการ”
สัปดาห์ผู้นำเอเปกครั้งที่ 23 ได้เสร็จสิ้นลงด้วยผลสำเร็จอย่างงดงามโดยส่งสาส์นที่เข้มแข็งเกี่ยวกับความมุ่งมั่นและความพยายามของเศรษฐกิจสมาชิกในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่มีการขยายตัวที่ยั่งยืนและทั่วถึงเพื่อเอเชียแปซิฟิกที่ยั่งยืน เสมอภาค มีความผูกพันและเจริญรุ่งเรืองเพื่อมีส่วนร่วมยกระดับเอกเปกขึ้นเป็นเวทีเพื่อการพัฒนา สัปดาห์ผู้นำเอเปกครั้งที่ 24 จะมีขึ้น ณ เปรูในปี 2016.