เปียงยางตัดโทรศัพท์สายด่วนทางทหารกับสาธารณรัฐ เกาหลี

วันที่๒๗มีนาคม สำนักข่าว Yonhap ของสาธารณรัฐ เกาหลีได้รายงานว่า  สาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนเกาหลีได้ประกาศตัดโทรศัพท์สายด่วนทางทหารกับสาธารณรัฐ เกาหลี
เปียงยางตัดโทรศัพท์สายด่วนทางทหารกับสาธารณรัฐ เกาหลี   - ảnh 1

 วันที่๒๗มีนาคม สำนักข่าว Yonhap ของสาธารณรัฐ เกาหลีได้รายงานว่า  สาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนเกาหลีได้ประกาศตัดโทรศัพท์สายด่วนทางทหารกับสาธารณรัฐ เกาหลี  ซึ่งถือเป็นช่องทางการติดต่อสุดท้ายระหว่างสองภาคเกาหลีในขณะที่สถานการณ์ในเขตนี้ทวีความตึงเครียดมากขึ้น  ก่อนหน้านั้น  สำนักข่าว KCNA ของสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชน เกาหลี ได้รายงานว่า  เปียงยางได้ประกาศตัดโทรศัพท์สายด่วน เมื่อเวลา๑๑. ๒๐น. โดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ทหารของเปียงยางที่ว่า สถานการณ์ในขณะนี้อาจปะทุสงครามขึ้นได้ทุกเมื่อ  จึงไม่จำเป็นต้องมีโทรศัพท์สายด่วนทางทหารระหว่างสองภาคเกาหลีอีกและตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดต่อทางทหารระหว่างสองภาคเกาหลี จะถูกระงับทั้งหมด  ปฏิบัติการดังกล่าวของเปียงยางอาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของนิคมอุตสาหกรรม เคชองเนื่องจากต้องใช้ช่องทางการสื่อสารดังกล่าวเพื่อเคลื่อนย้ายพนักงานและยานพาหนะเข้าออกนิคมแห่งนี้   ในเวลาที่ผ่านมา  เขตอุตสาหกรรมดังกล่าวยังดำเนินงานตามปกติ แม้จะมีความตึงเครียดระหว่างสองภาคเกาหลีก็ตาม
ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับปฏิกิริยาของสหรัฐต่อการที่เปียงยางตัดโทรศัพท์สายด่วนทางทหารกับสาธารณรัฐ เกาหลี  ในการแถลงข่าต่อสื่อมวลชน วันที่๒๗มีนาคม  นาย George Little โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ตำหนิการตัดสินใจดังกล่าวของเปียงยางว่า  เป็นการกระทำที่ยั่วยุและไม่เกิดประโยชน์  ในขณะเดียวกัน  นาย Patrick Ventrell โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เผยว่า  การกระทำที่ยั่วยุและคำขู่ของเปียงยางในเวลาที่ผ่านมาไม่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาสันติภาพและความมีเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี  พร้อมทั้งย้ำว่า  ยังคงธำรงช่องทางการติดต่อระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชน เกาหลีถึงแม้ทั้งสองประเทศยังไม่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต  ในวันเดียวกัน ส.สของพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือ LDP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในญี่ปุ่นได้เผยว่า  รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนการขยายคำสั่งคว่ำบาตรต่อสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนเกาหลีเพิ่มอีก๒ปีนับตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ก่อนคำสั่งค่ำบาตรปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่๑๓เมษายนนี้./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด