ขณะนี้ คณะเสนาธิการกองทหารสาธารณรัฐเกาหลีหรือ JCS กำลังเพิ่มการตรวจสอบและความระมัดระวังต่อการที่เปียงยางอาจมีท่าทีใหม่ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในระดับสูงสุด ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ฟุมิโอะ คิชิดะได้ให้ข้อสังเกตว่า การที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลียิงขีปนาวุธไปยังทะเลญี่ปุ่นไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นจะร่วมมือกับสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์การยิงขีปนาวุธดังกล่าว นี่เป็นการยิงขีปนาวุธครั้งที่ 10 ของเปียงยางตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับการยิงขีปนาวุธครั้งต่างๆของเปียงยางในเวลาที่ผ่านมา พลเรือโท เจมส์ ไซริง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันขีปนาวุธสหรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเปียงยางในโครงการพัฒนาขีปนาวุธ พร้อมทั้งเผยว่า วอชิงตันต้องตั้งสมมติฐานว่า เปียงยางอาจโจมตีสหรัฐด้วยขีปนาวุธที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ พร้อมทั้งเผยว่า เปียงยางไม่เพียงแต่ทดลองยิงขีปนาวุธในจำนวนที่น่าประกาศเตือนภัยเท่านั้นหากยังโชว์เทคโนโลยีที่มุ่งสู่การพัฒนาขีปนาวุธที่มีพิสัยทำการไกลขึ้นและมีความสามารถมากขึ้นอีกด้วย

ในวันเดียวกัน จีนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความอดกลั้นและมีปฏิบัติการเพื่อสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคหลังเหตุการดังกล่าวของเปียงยาง ส่วนประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีได้เตือนเปียงยางว่า การยิงขีปนาวุธติดต่อกันจะทำให้เปียงยางถูกโดดเดี่ยวและถูกคว่ำบาตรมากขึ้นจากประชาคมระหว่างประเทศ พร้อมทั้งสั่งให้กองทัพเตรียมความพร้อมและเพิ่มความสามารถในการป้องกันตนเอง ตลอดจนย้ำถึงความจำเป็นในการแสวงหามาตรการแก้ไขที่เป็นขั้นพื้นฐานให้แก่ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี.