โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ชี้ชัดว่าสองประเทศเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ มีความไว้วางใจและแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน  โดยสาธารณรัฐเกาหลีกำลังเป็นนักลงทุนชั้นนำในเวียดนาม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้สองฝ่ายพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีเป็น100พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อปีที่แล้วตัวเลขนี้อยู่ที่70พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งผลักดันความร่วมมือในด้านอื่นๆต่อไป เวียดนามว่าสาธารณรัฐเกาหลีพิจารณาปรับลดและมุ่งสู่การยกเลิกเงื่อนไขผูกมัดวงเงินกู้โอดีเอ วงเงินกู้พิเศษและวงเงินช่วยเหลือในรูปให้เปล่าแก่เวียดนาม ผลักดันการรับเพิ่มแรงงานเวียดนามและช่วยเหลือชมรมชาวเวียดนามในสาธารณรัฐเกาหลีโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โควิด-19ยังคงระบาดอย่างรุนแรง

เกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ทางฝ่ายสาธารณรัฐเกาหลีธำรงการสนับสนุนจุดยืนของเวียดนามและอาเซียนในการแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออก ธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบิน ให้ความเคารพกฎหมายสากล โดยเฉพาะUNCLOS 1982

ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลี คัง คยอง–ฮวา ได้เผยว่าปัจจุบันมีชาวสาธารณรัฐเกาหลีจำนวนมากที่ประสงค์เดินทางเข้าเวียดนามเพื่อประกอบธุรกิจและในทางกลับกันก็มีชาวเวียดนามหลายคนที่มีความประสงค์เดินทางไปศึกษาและทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งฝ่ายสาธารณรัฐเกาหลีพร้อมอำนวยความสะดวกให้ชาวเวียดนามเดินทางเข้าเมืองในสภาวการณ์ปัจจุบันพร้อมทั้งหวังว่า สองประเทศจะมีการหารือเพื่อสร้างความเห็นพ้องในขันตอนกระบวนการพิเศษด้านการเข้าเมืองเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เชี่ยวชาญ ผูับริหารสถานประกอบการเข้าเวียดนามได้เร็วขึ้น รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลีก็แสดงความปรารถนาว่าสองประเทศจะลงนามข้อตกลงว่าด้วยการประกันสังคมโดยเร็วเพื่อค้ำประกันสิทธิผลประโยชน์ของแรงงาน เสนอให้ฝ่ายเวียดนามระบุสาธารณรัฐเกาหลีในรายชื่อประเทศที่เปรียบเทียบราคาในการประมูลซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพราะสาธารณรัฐเกาหลีมีจุดแข็งในการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ได้มาตรฐานสากล.