ท่านเหงียนเติ๊นหยุงกับประธานาธิบดีเยอรมนี

(VOVworld) –  ในกรอบการเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้เข้าเยี่ยมคารวะท่านโจอาคิม เกาฟ์ ประธานาธิบดีเยอรมนี ให้การต้อนรับนาย นายฟรังค์-วัลเตอร์ ชไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี โดยในการให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุง ประธานาธิบดีโจอาคิม เกาฟ์ได้ยืนยันว่า เยอรมนีให้ความสำคัญต่อการขยายความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือกับเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายมีความยินดีต่อการพัฒนาที่ดีงามของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ โดยเห็นพ้องกันที่จะขยายความร่วมมือในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความร่วมมือพัฒนา การศึกษาและฝึกอบรม
ในการให้การต้อนรับนาย ฟรังค์-วัลเตอร์ ชไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้เรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อร่างและปฏิบัติกิจกรรมต่างๆเพื่อรำลึกครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2015 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้ยืนยันว่า เยอรมนีให้การสนับสนุนเวียดนามในการขยายความร่วมมือในทุกด้านกับอียู โดยเฉพาะในฟอรั่มพหุภาคีและองค์กรระหว่างประเทศ
ในการพบปะหารือกับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันนี นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า จะเร่งปฏิบัติโครงการร่วมมือหลัก เช่น บ้านเยอรมนี โครงการก่อสร้างทางรถไฟใต้ดินสาย 2 ในนครโฮจิมินห์ สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การลงทุนในเวียดนามของเยอรมนี ส่วนผู้นำเยอรมนีได้ยืนยันว่า จะคงเงินทุนโอดีเอให้แก่เวียดนามต่อไปในเวลาข้างหน้า ให้สิทธิพิเศษใน 3 ด้านคือ พลังงาน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการสอนอาชีพ  โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันที่จะขยายความร่วมมือและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคีและองค์กรระหว่างประเทศ เยอรมนีสนับสนุนการที่อียูเสร็จสิ้นการเจรจา ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – อียูและรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามตรงเวลาที่เสร็จสิ้นการเจรจา ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการพบปะหารือ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ตอบคำถามต่างๆของสื่อมวลชนเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงได้ย้ำว่า “เอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของทุกประเทศ ซึ่งเหมือนกับทุกประเทศ เวียดนามจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของตนตามกฎหมายสากล มาตรการทางกฎหมายเป็นมาตรการสันติและก้าวหน้าที่โลกให้การสนับสนุน”
ส่วนนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันนีได้ระบุว่า เยอรมนีสนับสนุนจุดยืนของเวียดนามที่จะแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 และแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี “เยอรมนีให้ความสนใจต่อการเดินทางอย่างเสรีและปลอดภัยในทะเล ดังนั้น พวกเรามักจะนำปัญหานี้มาหารือในขอบเขตทวิภาคีและสหภาพยุโรป และพวกเราจะหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ต่อไป พวกเราสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ไขความตึงเครียดด้วยสันติวิธีและทุกประเทศต้องปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาคมโลก แน่นอนว่า ไม่เพียงแต่เยอรมนีเท่านั้น หากสหภาพยุโรปก็จะหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ในการประชุมอาเซมเพื่อจะได้มีเส้นทางการเดินเรือที่เสรี มั่นคงและปลอดภัยในทะเล”
ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงได้พบปะกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานเยอรมนีและได้อ่านบทสุนทรพจน์ภายใต้หัวข้อ “ความท้าทายด้านความมั่นคง การเมืองและการต่างประเทศสำหรับเอเชีย” ที่สถาบันโคเบอร์./.